<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การเพิ่มขึ้นของนักพัฒนา Bitcoin ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin มีการพัฒนาให้มีความกระจายอำนาจหรือมีความ Decentralized มากขึ้นตามกาลเวลา โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มี Ecosystem ที่กว้างมากกว่าเมื่อก่อน

บริษัท New York Digital Investments Group (NYDIG) ซึ่งเป็นบริษัทที่สนับสนุน Bitcoin ได้เปิดเผยรายงานในเดือนกันยายนที่ตรวจสอบว่า Bitcoin มีจำนวนนักพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างไร โดยในรายงานสามารถสรุปออกมาได้ดังนี้

เครือข่าย Bitcoin ในเปิดตัวในเดือนมกราคมปี 2009 และในตอนนั้นก็มีนักพัฒนาที่กำลังพัฒนาอยู่เพียง 40-60 รายต่อเดือน

และนั่นก็ไม่ได้เป็นหน้าเดิม ๆ ทั้งหมด โดยในตอนนั้นมีนักพัฒนาจำนวน 1,140 รายที่ได้เข้ามาร่วมพัฒนา Bitcoin โดยมีนักพัฒนารายใหม่เข้ามาพัฒนาประมาณเดือนละ 5-10 ราย และก็มีนักพัฒนาบางคนที่เลือกใช้งานมันหรือพัฒนามันน้อยลง

ซอฟแวร์ประมาณ 84% ของ Bitcoin Core บน Github ถูกพัฒนาโดยนักพัฒนาจาก 20 ประเทศทั่วไป อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท NYDIG ระบุว่าการพัฒนาส่วนใหญ่มาจากในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

โค้ดของ Bitcoin Core มากกว่าครึ่งหนึ่งในปี 2021 มาจากนักพัฒนาที่เริ่มก้าวเข้ามาใน Ecosystem ของ Bitcoin หลังจากเกิดตลาดหมีในปี 2017

ก่อนหน้านี้ Bitcoin Core เคยมีผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลในการตรวจสอบว่าซอฟแวร์ได้มีการติดตั้งโค้ดที่เป็นอัตรายต่อผู้ใช้งานหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน 2021 บทบาทของผู้ดูแล Bitcoin Core ได้ถูกยกเลิกไปและได้เปลี่ยนไปใช้รูปแบบอื่นในการดูแล โดยทางบริษัท NYDIG กล่าวว่า “ในอนาคตกลุ่มผู้ดูแลเหล่านี้จะต่างออกไป”

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นาง Gloria Zhao กลายเป็นผู้ดูแล Bitcoin หญิงคนแรกที่เป็นที่รู้จักในโลก Bitcoin

นอกเหนือจากโปรโตคอลหลักของ Bitcoin Ecosystem ที่กว้างขึ้นยังดึงดูดนักพัฒนาที่กำลังใช้งานอยู่ให้มีจำนวนมากถึง 600-1,000 รายต่อเดือน โดยตอนนี้คาดว่ามีนักพัฒนา Bitcoin อยู่ทั้งหมด 13,000 ราย และจากข้อมูลพบว่า ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป และตัวเลขนี้อาจจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับการ Halving ของ Bitcoin

สุดท้ายทางบริษัท New York Digital Investments Group ได้สรุปรายงานการพัฒนาของ Bitcoin ว่า

“Ecosystem และนักพัฒนายังคงเติบโตและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสนับสนุน Bitcoin ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก และการเข้าถึง Bitcoin ที่มากขึ้นในฐานะระบบการเงินของโลก”

Source: CryptoPotato