ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าคำทำนายหมอปลาย นั้นดูทรงแล้วจะแม่นไม่ไหว เพราะหากใครติดตามหมอปลายมาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมของปี 2022 จะจำได้เลยว่าหมอปลายนั้นได้ทำนายอะไรไว้
แม้ว่าตอนนี้หมอปลาย พรายกระซิบ จะเป็นภิกษุณีสุทัสสนาอยู่ในผ้าเหลืองและเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนสิงหาคมของปีที่ผ่านมา หมอปลายเคยได้ให้คำนายเกี่ยวกับคริปโตไว้ว่า :
“ตลาดคริปโตช่วงปลายปี ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไปจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ตามที่ท่านยมเห็น ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ส่วนการเงินรูปแบบใหม่ ใครที่เก็บเงินจีน หรือเงินสด จะเก็บไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะภาษาจีน สัญชาติจีนซึ่งสำคัญมาก สกุลเงินเขาน่าจะเปลี่ยนเป็นดิจิทัลทั้งหมดหรืออะไรสักอย่าง เพราะว่าเขาปิดประเทศรอบนี้ เพราะปกติหลวงพี่จะต้องอยู่ที่จีนตลอด อยู่ที่จีนเป็นหลัก แล้วพยายามเปิดดวงเพราะอยากจะกลับไปแก้บนว่าเมื่อไหร่จะได้เข้า เขาปิดประเทศเพื่อที่เขาจะพัฒนาทุกอย่างแล้วเปลี่ยนแปลง จนคนไทยตามไม่ทัน ใครที่ลงทุนหรือทำอะไรกับจีน ลองหาข้อมูลดูว่าสกุลเงินเขาจะขนาดไหน แล้วอีกอย่างที่เคยพูดไว้เรื่องของสหรัฐฯ กับจีนเริ่มแล้ว แต่จะบอกเลยว่าฝั่งผมสีดำแข็งกว่าผมสีทอง เพราะฉะนั้นสกุลเงิน นักลงทุนทั้งหลายเตรียมตัวย้ายฝั่ง”
จากกราฟราคา Bitcoin ด้านบนเราจะเห็นได้ว่าในเดือนพฤศจิกายน ราคาก็ได้ดิ่งลงเหวครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่กระดานเทรดอันดับ 2 ของโลกล่มสลาย นั่นจึงเป็นสาเหตุหลัก ๆ เลยที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลดลง
ด้วยราคา Bitcoin ร่วงแรงมากขนาดนั้น มันจึงดูคล้ายว่าขัดกับสิ่งที่หมอปลายทำนายเอาไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นเดือนพฤศจิกายนมาได้ ราคา Bitcoin ก็เริ่มทำทรง Sideway ซึ่งนักเทรดหลายคนก็ยังเป็นกังวลว่า Bitcoin อาจจะสามารถดิ่งลงไปได้อีก
แต่อย่างไรก็ดี หลังจากปีใหม่ 2023 เป็นต้นไป ดูเหมือนว่าคำทำนายของหมอปลายจะเริ่มแสดงความแม่นออกมาแล้ว เพราะทั้งราคา Bitcoin และคริปโตทั้งตลาดก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นสีเขียว และนี่ก็เป็นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคมติแล้วที่ตลาดคริปโตยังคงทำทรงขาขึ้น
ซึ่งก็น่าลุ้นว่า หากนับจากนี้ไป ราคา Bitcoin ยังคงเป็นขาขึ้นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ตามคำทำนายของหมอปลาย เราจะอาจจะเห็นราคา Bitcoin พุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงช่วงปี Halving ปี 2024 เลยก็เป็นได้
คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์