ประเทศจีนกำลังจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งหลังจากปิดมายาวนานกว่า 3 ปี โดยผ่อนคลายข้อจำกัดที่เข้มงวดของโควิด-19 อย่างกระทันหัน ทั้งนี้จีนได้เปิดจุดผ่านแดนทางทะเลและทางบกที่ปกป้องชาวจีนกว่า 1.4 พันล้านคนจากไวรัสและโรคระบาด
ในรายงานเมื่อวันอังคาร Xiangrong Yu หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของ Citi กล่าวว่า
“เราเห็นตลาดและผู้กำหนดนโยบายต่างมองผ่านการอ่านในขณะที่สายตาจับจ้องไปที่ความแข็งแกร่งและความยั่งยืนของการฟื้นตัวของจีนหลังโควิด การเปิดประเทศครั้งใหม่เกิดขึ้นเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการฟื้นตัวก็เช่นกัน”
หลังจากที่เราได้พบเห็นมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกปัจจุบันก็ได้ผ่อนคลายนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งนั่นหมายความว่าการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
แม้ว่าผลกระทบของการแพร่ระบาดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างมาก แต่ก็มีข้อบ่งชี้ว่าการหยุดชะงักกำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว โดยการแพร่ระบาดสูงสุดที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปได้ทำให้เกิดการขาดแคลนคนงานจะบรรเทาลงและลูกค้ามีการใช้จ่ายอีกครั้ง โดยบริษัทที่ปรึกษา Capital Economics คาดว่าประเทศจะเติบโต 5.5% ในปีนี้ เทียบกับ 3% ในปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดว่าการฟื้นตัวของผู้บริโภคและกิจกรรมการลงทุนของจีนจะช่วยส่งเสริมอุปสงค์ทั่วโลก เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวของจีนทั่วเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมาเปิดอีกครั้ง
“หากเราทำงานอย่างหนัก เรามั่นใจมากพอว่าการเติบโตของจีนในปี 2023 มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะกลับคืนสู่แนวโน้มปกติ และเศรษฐกิจจีนจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
ความฝันในการฟื้นฟูของจีน
จีนเป็นประเด็นสำคัญสำหรับหลาย ๆ คนบน Twitter รวมถึง Justin Sun มหาเศรษฐีที่ประกาศตัวเองว่าเป็นมหาเศรษฐี
ทั้งนี้ Sun แสดงท่าทีชื่นชมการเปิดประเทศอีกครั้งของจีน พร้อมเป็นหุ้นส่วนระยะยาวในความสำเร็จของจีน อย่างไรก็ตามมหาเศรษฐีผู้ประกาศตัวเองว่าไม่ได้พูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจนในหัวข้อของเขา แต่จากประวัติของเขา มันยากที่จะตีความเป็นอย่างอื่น
การลงทุนของรัฐบาลจีนและการเปิดใหม่ของจีนจะสนับสนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์และหนุนเศรษฐกิจโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
นักวิเคราะห์เชื่อว่าการเปิดประเทศของจีนสามารถกระตุ้นการกลับไปสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสกุลเงินดิจิทัลและตราสารทุน
อย่างไรก็ตามหากสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกและค่าเงิน USD อ่อนค่าได้ สินทรัพย์ดิจิทัลอาจเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด