เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้อมูล On-chain ได้เผยให้เห็นถึงเรื่องราวของนักลงทุน Ethereum นิรนามรายหนึ่งที่สูญเสียเงินกว่า 2 ล้านดอลลาร์จากการเทรด Ethereum มารับตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2022
ซื้อ Ethereum ที่ราคาสูงและขายราคาต่ำ
Lookonchain แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนได้พบเจอสิ่งที่เรียกว่า “การใช้เงินแบบโง่ ๆ ” หรือ “Stupid Money” โดยข้อมูลพบว่านักเทรดนิรนามรายนี้ได้ใช้เงินจำนวน 12.5 ล้านดอลลาร์ในเหรียญ Stablecoins เพื่อซื้อ 7,135 ETH หลังจากที่ราคาเพิ่มขึ้น 10% เป็น 1,790 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน ปี 2022 แต่ทว่าในเวลาต่อมา นักเทรดรายนี้ต้องขายทรัพย์สินทั้งหมดในราคาขาดทุนที่ 10.51 ล้านดอลลาร์
ซึ่งขาดทุนเกือบ 2 ล้านดอลลาร์ แต่ถ้าเขาอดทนรอขายในวันนี้จะทำให้ขาดทุนน้อยลงอย่างมาก
นักลงทุนดังกล่าวกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากราคา ETH ได้เพิ่มขึ้นราว 10% ซึ่งข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ETH มูลค่า 7.65 ล้านดอลลาร์ถูกซื้อเมื่อวันที่ 16 ก.พ. เพียงเพื่อขายในอีกแปดชั่วโมงต่อมา เมื่อราคา ETH ลดลง ส่งผลให้สูญเสียนักเทรดรายนี้สูญเสียเงินเป็นจำนวนอีก 324,000 ดอลลาร์
3 บทเรียนราคาแพง
ความผิดพลาดจากนักเทรดรายนี้ อาจเป็นบทเรียนที่คอยย้ำเตือนให้เหล่านักลงทุนคริปโตทุกคน
อย่าพึ่งพาปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียว
สำหรับ ETH และการอัปเดต The Merge ในปี 2022 กลายเป็นเหตุการณ์ “ขายข่าว” ดังนั้นการที่จะมองว่า ETH จะเปลี่ยนเป็นช่วงขาขึ้น เพราะปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวจึงเป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องไปซะทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น การ All-in โดยใช้ตัวชี้วัดเพียงตัวเดียว จึงถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามที่นักลงทุนคริปโตไม่มีเอาเป็นเยี่ยงอย่างและนักเทรดควรพิจารณาปัจจัยหลายอย่างก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
ป้องกันความเสี่ยงด้วยสัญญา Option
การป้องกันความเสี่ยงด้วยสัญญา option ในการเทรดจะช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อสัญญา option ตรงข้ามกับ position ที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงได้โดยการเปิดสัญญา put option เทียบกับจุดที่เป็นขาขึ้น
สัญญา Option ในการขายให้สิทธิ์แก่ผู้ถือ ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในหรือก่อนวันที่กำหนด ดังนั้น หากราคาสินทรัพย์ลดลง นักลงทุนจะสามารถขายสินทรัพย์ได้ในราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นการป้องกันตนเองจากการขาดทุนในมูลค่าของสินทรัพย์ ถือว่าเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อนักเทรดคริปโตอย่างมาก
อย่า All in
อย่าลงเงินทั้งหมดที่มีในคราวเดียว ทั้งนี้กลยุทธ์แบบค่อย ๆ ช้อนเพิ่มทีละน้อยจะปลอดภัยกว่า เพราะจุดสำคัญคือ เรายังมีเงินทุนบางส่วนที่เหลืออยู่ และสามารถใช้เงินทุนเหล่านั้นมาซื้อเพิ่มสินทรัพย์คืนได้ในอนาคตเมื่อถึงจุดเข้าซื้อที่ดีพอ
เช่น หาก Indicator ยอดฮิตอย่าง RSI แสดงให้เห็นว่าราคา มีการ overbought หรือ oversold ในกรอบเวลาหนึ่ง ๆ แล้ว การแบ่งเปิดออเดอร์ทีละน้อยก็อาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการ All in เข้าไปทั้งหมดในคราวเดียว
กราฟราคา Ethereum ด้านล่างแสดงถึงสองเหตุการณ์ เมื่อนักลงทุนที่กล่าวถึงข้างต้นซื้อ ETH ควบคู่ไปกับ RSI ซึ่งสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว ความผิดพลาดของเทรดเดอร์สามารถใช้เป็นโอกาสในการเรียนรู้ว่าอะไรเหมาะกับนักลงทุนและอะไรไม่ได้ผล ประเด็นหลักคือนักลงทุนควรเข้าสู่ตลาดด้วยแผนการที่ชัดเจนตามการวิเคราะห์และความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา : cointelegraph