ธนาคารกลางของยูเครนระงับการทำธุรกรรมผ่านกระดานเทรดคริปโตชั่วคราว กระดานเทรดคริปโต เช่น Binance และ Kuna ก็ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อแจ้งให้นักลงทุนทราบเกี่ยวกับความไม่สะดวก
ยูเครนระงับการใช้สกุลเงิน Hryvnia ซึ่งเป็นสกุลเงินประจำชาติสำหรับการฝากและถอนบนกระดานเทรดชั่วคราว แม้ว่าการประกาศดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุน แต่ทางกระดานเทรด Binance ก็ได้ออกมาแนะนำถึงประโยชน์ของการใช้บริการ Peer-to-Peer ในการซื้อขายคริปโต
หลังจากทางธนาคารกลางยูเครนออกมาประกาศระงับการใช้งานสกุลเงินบนกระดานเทรดคริปโตชั่วคราว กระดานเทรด เช่น Binance และ Kuna ก็ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อแจ้งให้นักลงทุนทราบเกี่ยวกับความไม่สะดวก
นาย Michael Chobanian ผู้ก่อตั้งกระดานเทรดคริปโต Kuna ซึ่งเป็นกระดานเทรดสัญชาติยูเครน ได้รับรู้ถึงการระงับบริการดังกล่าว และเขาก็ได้ออกมาอธิบายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น
นาย Chobanian อธิบายว่ากฏระเบียบดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อ Bitcoin และเสริมว่า
“เกี่ยวกับใช้บัตรธนาคารในการฝากถอนบนกระดานเทรด ใช่ มันใช้ไม่ได้ เรากำลังมองหาทางออกของปัญหานี้ เพื่อที่ไม่ให้ตลาดคริปโตของยูเครนได้รับผลกระทบ”
กระดานเทรด Binance ก็รับทราบถึงปัญหาดังกล่าวจากหน่วยงานกำกับดูแล และถูกระงับใช้สกุลเงิน Hryvnia ในซื้อฝากถอนคริปโต แต่อย่างไรก็ตาม ทางกระดานเทรด Binance ยังคงมีทางเลือกอื่นให้ โดยบอกว่า
“เราขอแนะนำให้ใช้บริการ P2P เพื่อให้คุณสามารถใช้งาน Binance ต่อไปได้อย่างสะดวกสบาย”
กระดานเทรดคริปโตได้ใช้โอกาสนี้ในการแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบงานบริการ P2P อนุญาติให้ผู้ใช้งานกระดานเทรดคริปโตสามารถซื้อขายกับผู้ใช้รายอื่นได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านคนกลางเช่นธนาคาร
ท่าทีต่อต้านคริปโตของยูเครนเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เมื่อเรามองว่าก่อนหน้าประเทศยูเครนได้รับเงินบริจาคผ่านทางคริปโตมากกว่า 70 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เกิดสงครามกับรัสเซีย
นาย Alex Bornyakov รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงดิจิทัลของยูเครน ได้พูดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ว่า มีการบริจาคเงินด้วยคริปโตตั้งแต่มูลค่า 1 ดอลลาร์จนถึง หลายล้านดอลลาร์ เขากล่าวว่ายูเครนได้หันไปใช้คริปโตตั้งแต่ช่วงเกิดการรุกราน เนื่องจากประเทศต้องการความช่วยเหลือโดยทันที โดยเขาได้กล่าวว่า
“หากเราใช้ระบบการเงินแบบดั้งเดิม มันต้องใช้เวลาหลายวัน เราสามารถซื้อสินค้าที่สำคัญได้อย่างปลอดภัยและใช้เวลาไม่นานผ่านทางคริปโต และสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็คือ 60% ของซัพพลายเออร์รองรับการชำระเงินด้วยคริปโต”
Source: Cointelegraph