<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำความรู้จัก “Auto-GPT” AI ระดับ Boss ที่สามารถช่วยเราทำงานได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคิดเยอะ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในปี 2023 นี้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) พัฒนามาไกลกว่าพวกเราคาดคิดกันมาก จนนำไปสู่ยุคสมัยของการค้นหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อใช้ประโยชน์จาก AI อยู่เสมอ และจนถึงทุกวันนี้ หลายคนคงเห็นตรงกันแล้วว่า ChatGPT ของ OpenAI เป็นหนึ่งในโมเดลภาษาที่ทรงพลังที่สุดในโลก

แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากเราทุกคนสามารถใช้ ChatGPT ในการทำโปรเจกต์ที่ซับซ้อนได้แบบอัตโนมัติ โดยที่มนุษย์ไม่ต้องมานั่งกำหนด prompt ในทุก ๆ ขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนี่ก็คือที่มาของ Auto-GPT AI หนึ่งในความก้าวหน้าล่าสุดของเทคโนโลยี AI ที่ทางสยามบล็อกเชนจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันในวันนี้

Auto-GPT AI คืออะไร

การถือกำเนิดของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (large language models – LLMs) อย่าง GPT-4 ทำให้เราทุกคนได้เห็นแล้วว่าแอปพลิเคชัน natural language processing (NLP) นั้นทรงพลังมากเพียงไร แต่เทคโนโลยีดังกล่าวก็ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การกำเนิดของ Auto-GPT AI

Auto-GPT เป็นแอปพลิเคชันแบบ open-source ที่ใช้โมเดลภาษา GPT-4 ของ OpenAI เพื่อให้สามารถช่วยมนุษย์ทำโปรเจกต์ที่ต้องมีการดำเนินการหลายขั้นตอนให้เสร็จสมบูรณ์โดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องมานั่งป้อน prompt ทีละขั้นตอนเหมือนกับ GPT-4

Auto-GPT ทำงานอย่างไร

Toran Bruce Richards นักพัฒนา Auto-GPT อธิบายว่าแอปพลิเคชันนี้ทำงานด้วยการ “เชื่อมโยงความคิดของ LLM เข้าด้วยกัน” เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้แบบ “อัตโนมัติ”

ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า Auto-GPT จะทำงานคล้ายกับ ChatGPT แต่มีความสามารถเพิ่มเติมที่มีลักษณะคล้ายกับ “อำนาจในการตัดสินใจ” ที่สามารถทำแทนมนุษย์ในการดำเนินงานบางส่วนได้

วิธีเริ่มต้นใช้งาน Auto-GPT

Auto-GPT คือแอปที่เขียนขึ้นด้วยภาษา Python ซึ่งต้องใช้คีย์ของ OpenAI และ Pinecone API โดยถ้าหากใครสนใจทดลองใช้ Auto-GPT ก็สามารถดาวน์โหลดโค้ดได้จาก GitHub และทำตามคำแนะนำเพื่อตั้งค่า instance ของเราเอง

อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นใช้งาน Auto-GPT จะต้องมีความรู้ด้านเทคนิคพอสมควร ทั้งนี้ถ้าหากต้องการ AI  ที่มีลักษณะคล้ายกัน แต่มีความยุ่งยากในด้านการใช้งานน้อยกว่า ก็สามารถใช้งาน AgentGPT ได้ โดย AgentGPT เป็นแอปพลิเคชันที่คล้ายกับ Auto-GPT แต่ผู้ใช้งานแอปนี้ไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม

ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Auto-GPT และ ChatGPT

  • ความเป็นอิสระ: Auto-GPT คือ AI ที่มีอำนาจในการตัดสินใจงานบางอย่าง ในขณะที่ ChatGPT ต้องอาศัยการกำหนด prompt ของมนุษย์
  • โปรเจกต์หลายขั้นตอน: Auto-GPT ออกแบบมาเพื่อจัดการโปรเจกต์ที่มีการดำเนินงานหลายขั้นตอน ในขณะที่ ChatGPT เหมาะสำหรับการสนทนาหรือการทำงานที่มีขั้นตอนสั้นกว่า
  • ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค: Auto-GPT ต้องใช้ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมเพื่อใช้งาน ขณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึง ChatGPT ได้เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • ความพร้อมใช้งานของ open-source: Auto-GPT พร้อมใช้งานแบบสาธารณะบน GitHub ในขณะที่เราใช้งาน ChatGPT กันแบบส่วนตัว
  • ยังอยู่ในช่วงทดลอง: Auto-GPT ยังคงเป็นโปรเจกต์ทดลองเท่านั้น แต่ ChatGPT เป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวแล้ว

กรณีการใช้งานสำหรับ Auto-GPT

Auto-GPT สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การสร้างเนื้อหา การจัดการโซเชียลมีเดีย และการจัดการโปรเจกต์ โดย Auto-GPT สามารถช่วยให้กระบวนการสร้างบล็อกโพสต์ ตั้งเวลาโพสต์โซเชียลมีเดีย และแม้กระทั่งจัดการโปรเจกต์ทั้งหมดได้แบบอัตโนมัติ รวมไปถึงการสร้างบอท การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ฯลฯ

Auto-GPT เป็นโปรเจกต์ทดลองที่มีศักยภาพในการช่วยให้การทำให้งานหลายขั้นตอนเป็นไปแบบอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นในโลก AI ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเราทุกคนมีแนวโน้มที่จะได้เห็นเครื่องมือในลักษณะเดียวกับ Auto-GPT มากขึ้นอีกในอนาคต

ที่มา: dignited