Crypto มีบทบาทสำคัญในการจับกุมตลาดมืดด้านเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายที่เรียกว่า “ตลาดผูกขาด” เนื่องจาก Europol กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา และเก้าประเทศร่วมมือกันเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัย 288 คนที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด
การดำเนินดังกล่าวเรียกว่า SpecTor ที่ทำให้สามารถยึดอาวุธปื่นมากกว่า 100 ชนิด ยาเสพติดอีกกว่า 850 กิโลกรัม และเงินสด รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลอีกกว่า 55.69 ล้านดอลลาร์ตามการรายงานข่าวอย่างเป็นทางการ
ความสำเร็จของ SpecTor เน้นให้เห็นถึงศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศในการปราบปรามที่ผิดกฎหมายบนดาร์กเว็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล
SpecTor ได้รับข้อมูลจากเซิฟเวอร์ที่ถูกยึดของ Monopoly ซึ่งทำให้ผู้ตรวจสอบ SpecTor สามารถติดตามผู้ค้ายาและลูกค้าหลายร้อยรายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้
Merrick Garland อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ระบุว่า
“ปฏิบัติการดังกล่าวส่งผลให้มีการจับกุมจำนวนมากที่สุดและมีการยึดเงินได้มากที่สุดจากการดำเนินการระหว่างประเทศที่นำโดยกระทรวงยุติธรรมในการต่อต้านผู้ค้ายาเสพติดบนเว็บมืด”
ทั้งนี้การปราบปรามธุรกรรม cryptocurrency จะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อปกป้องนักลงทุนจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่อไป
อาชญากรไซเบอร์กำลังพุ่งเป้าไปที่ Cryptocurrency มากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากส่วนใหญ่พวกมันไม่ได้รับการควบคุมและกระจายอำนาจอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เป็นโอกาสที่น่าดึงดูดอย่างมากสำหรับการทำกำไรและส่งผลให้มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล
ฐานข้อมูลระบุว่าผู้ติดตาม Crypto ส่วนใหญ่จะสามารถติดตามได้จากการไหลเวียนผ่านบล็อกเชนต่าง ๆ โดยใช้ตัวกลางผ่าน CeFi หรือกระดานเทรดคริปโตซึ่งช่วยให้ศาลสามารถระบุตัวอาชญากรได้อย่างทันท่วงที
หลายประเทศเตรียมจับกุมอาชญากรเว็บมืด
ผู้ขายและผู้ซื้อ 288 รายดังกล่าวถูกจับกุมทั่วยุโรป สหรัฐอเมริกา และบราซิล เนื่องจากพวกเขาเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าผิดกฎหมายหลายหมื่นรายการ เป้าหมายที่มีมูลค่าสูงหลายคนอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ Europol จับกุม
การสืบสวนเพื่อระบุตัว บุคคลเพิ่มเติมที่อยู่เบื้องหลังบัญชีเว็บมืดยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการจับกุมเพิ่มเติมตามมา
อย่างไรก็ตามการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จถือเป็นการทำลายเครือข่ายอาชญากรเว็บมืดครั้งใหญ่ และทางการหวังว่าการดำเนินการนี้จะขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายดังกล่าวได้อีก