<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดัชนีความกลัวและความโลภเปลี่ยนสถานะเป็น “กลัว” อีกครั้ง ท่ามกลางการฟ้องคดีต่อ Binance

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจาก SEC ยื่นฟ้อง Binance ด้วยการตั้งข้อหาทั้งหมด 13 ข้อหา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นักเทรด Crypto สาย Long ก็ถูกล้างพอร์ตรวมกันมูลค่ากว่า 289 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว ซึ่งเหตุการณ์นี้นับเป็นการล้างพอร์ตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน

ในขณะเดียวกัน ดัชนีความกลัวและความโลภของ Bitcoin (Crypto Fear and Greed Index) เครื่องมือที่ใช้วัดความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อ Bitcoin และตลาด Crypto ก็ได้เปลี่ยนสถานะกลับสู่ “ความกลัว” อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นระดับเดียวกับเหตุการณ์เหรียญ USD ของ Circle (USDC) หลุด peg กับเงินดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

ดัชนีความกลัวและความโลภของ Bitcoin ที่มา: Alternative.me

ดัชนีความกลัวและความโลภของ Bitcoin เป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยอ้างอิงจากเครื่องมือต่าง ๆ อาทิเช่น indicators ที่ใช้วัดความผันผวนของราคา โมเมนตัม วอลุ่มเทรด ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย และ Google trends เพื่อสร้างภาพรวมของอารมณ์ของนักลงทุนในตลาด Crypto

ความรู้สึกด้านลบส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ราคาเหรียญ Crypto จำนวนมากร่วงลดลงทันที หลังจาก SEC ฟ้องดำเนินคดีกับ Binance โดยเหรียญ Crypto ยอดนิยม เช่น Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) มีราคาลดลง 4.1% และ 3.1% ตามลำดับ ในขณะที่ราคา Cardano (ADA) ลดลง 6.4% และ Solana

(SOL) ลดลง 7.4% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Cointelegraph Price Index

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักเทรดสาย Long ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จนถูกล้างพอร์ตรวมมูลค่ากว่า 289 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว นับตั้งแต่มีการประกาศการฟ้องร้อง โดยการล้างพอร์ตนักเทรดสาย Long ในครั้งนี้คิดเป็น 92% ของการล้างพอร์ตโดยรวมทั้งหมด

การล้างพอร์ตทั้งหมดในวันที่ 5 มิถุนายน 2023 ที่มา: Coinglass

ในขณะเดียวกัน นักเทรดสาย Short ถูกล้างพอร์ตเป็นมูลค่ารวม 20.7 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ 43% ของความเสียหายจากการล้างพอร์ตทั้งหมดมาจากสินทรัพย์ดิจิทัล 2 อันดับแรกอย่าง Bitcoin และ Ethereum

ที่มา: cointelegraph