ตามรายงานเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนโดยบริษัทรักษาความปลอดภัย Web3 Beosin นั้นพบว่ามูลค่ารวมของคริปโตผู้ใช้ที่สูญเสียไปกับการต้มตุ๋น, การแฮ็ก และ rug pull นั้นตัวเลขสูงถึง 656 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกพของปี 2023
ซึ่งประกอบไปด้วยการสูญเสียมูลค่า 471.43 ล้านดอลลาร์จากการโจมตีโปรโตคอล 108 ครั้งและอีกกว่า 108 ล้านดอลลาร์ในการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งต่าง ๆ และอีก 75.87 ล้านดอลลาร์จากการ rug pull 110 ครั้ง สำหรับการแฮ็ก จำนวนเงินดังกล่าวลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 และครึ่งหลังของปี 2565 โดยสูญเสียไป 1.91 พันล้านดอลลาร์และ 1.69 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ของ Beosin เขียนว่า
ทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปประมาณ 215 ล้านดอลลาร์ถูกกู้กลับคืนมา คิดเป็น 45.5% ของทรัพย์สินที่ถูกขโมยทั้งหมด ในทางตรงกันข้าม ในปี 2022 มีเพียง 8% เท่านั้นที่ถูกกู้คืนกลับมาได้ คริปโตที่ถูกขโมยไปกว่า 113 ล้านดอลลาร์ถูกโอนไปยังบริการ mixer: 45.38 ล้านดอลลาร์ถูกโอนไปยัง Tornado Cash และ 68.14 ล้านดอลลาร์ไปยังบริการ มิ mixer ตัวอื่นๆ”
ในแดชบอร์ดที่รวบรวมโดย Beosin และ Footprint Analytics มีเพียงโปรเจกต์เดียวที่ถูกแฮ็กแล้วมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ นั่นคือการแฮ็ก flash loan ใน Euler Finance ที่มูลค่าความเสียหายนั้นสูงถึง 195 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ทางบริษัทเปิดให้ลูกค้าทำการไถ่ถอนสินทรัพย์ออกไปได้ในวันที่ 12 เมษายน หลังจากแฮ็กเกอร์ส่งคืนทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ถูกขโมยไปกลับคืน
crypto ส่วนใหญ่ที่ถูกขโมยไปในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 คือเหรียญและโทเค็นที่สร้างบนบล็อกเชน Ethereum คิดเป็น 75.6% ในขณะเดียวกันโทเค็นบน Binance Smart Chain ซึ่งเป็นประเภทสินทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ถูกขโมยไปเพียง 2.6%
นอกจากนี้ crypto ที่ถูกขโมยไปส่วนใหญ่นั้นเกิดจากการถูกเจาะช่องโหว่ใน smart contract (56%) ในขณะที่ 21.4% นั้นไม่มีเหตุผลที่ระบุได้อย่างแน่ชัดเจนอย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ที่มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 2,100 ล้านดอลลาร์จากการแฮ็ก, ฟิชชิ่งและการ rug pull
ที่มา : Cointelegraph