<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ไต้หวันเฝ้าระวังการติดสินบนในการเลือกตั้งปี 2024 คาดอาจสูงกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทางการไต้หวันกำลังดำเนินการเชิงรุกเพื่อจัดการกับการใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่างผิดกฎหมายที่เพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งในปี 2024

รัฐบาลและอัยการไต้หวันกำลังใช้มาตรการเพื่อจัดการกับการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นสำหรับการติดสินบน ขณะที่ประเทศกำลังรอการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของไต้หวันกล่าวว่าวิธีการติดสินบนอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยย้ายจากการทำธุรกรรมเงินสดไปสู่วิธีการชำระเงินแบบดิจิทัล ซึ่งรวมถึงสกุลเงินดิจิตอล

ไต้หวันมีการติดสินบนกว่า 172 ล้านดอลลาร์ใน 23 ปี

ทางการไต้หวันได้ระบุสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่สามารถใช้ในการติดสินบนได้ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงกล่าวว่ากำลังดำเนินการเพื่อขจัดภัยคุกคามดังกล่าวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้นในปีหน้า

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิธีการติดสินบนที่เป็นที่นิยมได้เปลี่ยนไป โดยเปลี่ยนจากการจ่ายเงินด้วยเงินสดไปสู่คริปโทเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลของบุคคลที่สามหลายแห่งได้กลายเป็นทางเลือกที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น Pi Wallet, Line Pay, Oufubao และ Jiekou Payment

ตามรายงานของท้องถิ่น ทางการได้ยืนยันคดีติดสินบนมากกว่า 1.25 พันล้านหยวนหรือประมาณ 172.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงระหว่างปี 2000 ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2023 โดยปีที่แล้วมีรายงานว่ามากถึง 50 ล้านหยวน

หลายปีก่อน พรรคพลังใหม่ (NPP) ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ถูกพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นและการติดสินบน อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ NPP คนหนึ่งถูกกล่าวหาว่ารับเงินบริจาคหาเสียงอย่างผิดกฎหมายจากนักธุรกิจเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเมือง เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวทำให้ภาพลักษณ์ของพรรค NPP เสื่อมเสียและนำไปสู่การสืบสวนเรื่องการเงินของพรรคและแนวทางปฏิบัติทางการเมืองในที่สุด

ไต้หวันติดสินบนกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิทัลได้กลายเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับการระดมทุนในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและอาชญากรรม เนื่องจากลักษณะการกระจายอำนาจ จึงยากขึ้นในการติดตามการไหลของเงิน crypto 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ cryptocurrency อย่างผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023 เนื่องจากจำนวนธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

ตามรายงานโดย Chainalysis แพลตฟอร์มการวิเคราะห์บล็อกเชนแสดงให้เห็นเมื่อต้นปีนี้ พูดให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นกว่า 100,000 เท่าในปี 2022 ซึ่งคิดเป็น 44% ของธุรกรรมผิดกฎหมายในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าในขณะที่สกุลเงินดิจิทัลถูกใช้เพื่อจัดหาเงินทุนให้กับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่ก็ยังเป็นส่วนที่ค่อนข้างเล็กของปริมาณสกุลเงินดิจิทัลโดยรวม สิ่งสำคัญคือกฎระเบียบที่อาจทำขึ้นมาเพื่อทราบการใช้จ่ายในแต่ละครั้งอย่างชัดเจนนั่นเอง