Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum กล่าวว่า การถือกำเนิดขึ้นของ Bitcoin Ordinals ถือเป็นการจุดประกายให้เกิด “แนวคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ขึ้นในชุมชน” เพื่อให้ผู้คนได้ริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ด้วยเงินดิจิทัล เช่น แอปหรือเกม แทนที่จะพยายามทำเงินมากขึ้นด้วยการเทรดหรือเก็งกำไร นี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะมันช่วยให้เทคโนโลยีเติบโตและช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงบนโลก
Buterin ได้แสดงความคิดเห็นบน Twitter เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม โดยเขาได้พูดคุยกับผู้สนับสนุน Bitcoin อย่าง Eric Wall และ Udi Wertheimer เกี่ยวกับสิ่งที่นักพัฒนา Bitcoin สามารถเรียนรู้ได้จากผู้พัฒนา Ethereum
Buterin ยกย่อง Ordinals และมาตรฐานโทเค็น BRC-20 ซึ่งเขามองว่าเป็นการช่วยลดปัญหา “การขาดนวัตกรรม” หรือ สถานะที่ไม่คืบหน้า ในระบบนิเวศของBitcoin
“Ordinals กำลังเริ่มนำวัฒนธรรมของการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ กลับมา มันให้ความรู้สึกเหมือนช่วงที่มีกระแสตาเลเซอร์ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดี” Buterin กล่าว
ทั้งนี้ในระหว่างการสนทนา Wall ได้พูดถึงข้อเสียของเครือข่าย Bitcoin Lightning ว่าไม่สามารถปรับขนาดสำหรับผู้ใช้ในอนาคตได้ และระบบล้มเหลว “อยู่บ่อยครั้ง” เวลาทำการประมวลผล “แม้กระทั่งการชำระเงินที่มีขนาดไม่เยอะมากนัก”
ในการตอบสนอง Buterin แนะนำว่า แนวทางที่ดีที่สุดคือ การมุ่งเน้นไปที่การใช้โซลูชัน Layer-2 ประเภทต่างๆ ควบคู่ไปกับการมองหาวิธีที่จะทำให้ชั้น Base Layer ของ Bitcoin มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ผมคิดว่า การมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี Rollup เป็นเรื่องที่ดี รวมถึงการเปิดกว้างสำหรับโซลูชันการปรับสเกลที่ใช้ ZK-snark” อีกทั้ง Wertheimer เชื่อว่า การเริ่มใช้ Rollup อาจสามารถสร้างผลข้างเคียงที่น่าสนใจ
“หากเราใช้การ Rollup สำหรับ Bitcoin เราอาจจะได้รับสภาพแวดล้อมจากการดำเนินการเช่นกัน เราจะสามารถทำสัญญา Smart Contract บน Bitcoin ได้” Wertheimer กล่าว
Wall และ Werthimer สองคนเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังโครงการ Ordinals Taproot Wizards และเป็นหนึ่งตัวแทนของ Ordinals
อย่างไรก็ตามท่าทีของพวกเขาได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่า Bitcoiners ที่เป็นสาย Fundamental หัวรุนแรง โดยมีการอ้างว่า NFT และสัญญา Smart Contract บน Bitcoin จะทำให้เจตจำนงของ Bitcoin ที่ควรจะเป็นของเครือข่ายเงินสดแบบ peer-to-peer เสื่อมถอยลง
นักวิจารณ์เหล่านี้รวมถึง Samson Mow CEO ของ Jan3 ซึ่งเชื่อว่า Ordinals จะทำให้ Bitcoin สูญเสียบล็อกไปเฉย ๆ แทนที่ควรจะมุ่งเน้นการทำงานไปที่การชำระเงิน
Wall ตั้งข้อสังเกตถึงคำวิจารณ์เหล่านี้ พร้อมอธิบายว่า Bitcoin สามารถใช้เป็น “proof system” สำหรับการพิสูจน์ zero-knowledge ซึ่งจะไม่เป็นการรบกวนเครือข่ายมากนัก
ที่มา: cointelegraph