<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

องค์การเพื่อสิ่งแวดล้อม (Greenpeace) ทุ่มเงิน 170 ล้านบาท ผลิตสื่อต่อต้าน Bitcoin ฉายทั่วนิวยอร์ก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา Greenpeace องค์การไม่แสวงหาผลกำไรที่มีจุดมุ่งหมายในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอบน Twitter ทางการขององค์กร แสดงภาพการฉายสื่อต่อต้าน Bitcoin ตามจุดต่าง ๆ ของรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ

คลิปวิดีโอมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์นี้ เน้นย้ำถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจาก Bitcoin โดยกล่าวว่า Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ภายในบางประเทศ เช่น อาร์เจนตินา สวีเดน หรือเบลเยียม และกล่าวว่า การใช้ Bitcoin ในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว สร้างมลพิษเทียบเท่ากับรถยนต์ที่ใช้แก๊สขับเคลื่อนถึง 7.5 ล้านคัน

นอกจากนี้ สื่อดังกล่าว ยังส่งสารไปถึง Jamie Dimon CEO ของ JPMorgan Chase & Co. และ Larry Fink CEO ของ BlackRock ที่เป็นผู้จุดประกายกระแสการจัดตั้งกองทุน Bitcoin spot ETF ให้ “หยุดเพิกเฉยต่อมลพิษที่เกิดขึ้นจาก Bitcoin” พร้อมฉายสื่อต่อต้าน Bitcoin บนอาคารสำนักงานของ BlackRock ด้วย

Greenpeace กล่าวในสื่อว่า มลพิษที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม Bitcoin มีแต่จะแย่ลงเท่านั้น และร้องขอให้ทั้งสองบริษัททำงานร่วมกับองค์กรเพื่อ “จัดการ Bitcoin” ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ถูกกล่าวหาว่าใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาล ซึ่งสร้างมลพิษให้แก่โลกที่กำลังประสบกับภาวะโลกร้อนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นักขุด Bitcoin และบริษัทคริปโตต่าง ๆ ต่างพยายามลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สร้างมลพิษ ด้วยการหันไปใช้พลังงานไฟฟ้าที่มาจากพลังงานสะอาดแทน หนึ่งในตัวอย่างบริษัทที่หันมาใช้พลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในการขุด Bitcoin ได้แก่ TeraWulf ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเหมืองขุด Bitcoin ด้วยพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของโลก

Daniel Batten ผู้ร่วมก่อตั้ง CH4 Capital ยังได้แสดงหลักฐานถึงความยั่งยืนของ Bitcoin ในบล็อก และ Bitcoin ก่อมลพิษจากการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 296g/KWh ลดลงจากเดือนมกราคมปี 2020 ถึง 50.4% ต่ำกว่ามลพิษที่เกิดขึ้นจากอุตสาหกรรมธนาคารและอุตสาหกรรมทองคำ

การโจมตี Bitcoin ของ Greenpeace ในครั้งนี้ จึงสร้างความสงสัยในความถูกต้องของข้อมูลและไม่เป็นที่ต้อนรับของชาวชุมชนคริปโต


อ้างอิง: Batcoinz