บริษัท Glow Token ได้ยื่นฟ้องเว็บเทรด Crypto.com ในศาลฟลอริด้า โดยกล่าวหาว่าเว็บเทรดรายใหญ่นี้ได้ละเมิดสัญญาและอ้างว่าเป็นหนี้ค่าเสียหายบริษัทของเขากว่า 2.5 แสนดอลลาร์ กับอีก 1 Bitcoin (มูลค่า 2.3 หมื่นดอลลาร์) แม้ Glow Token จะรับรู้ว่า Crypto.com อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงครั้งนี้ก็ตาม
จากเอกสารของศาล นาย Bryan Lawrence CEO ของ Glow Token ได้รับการติดต่อจากบุคคลที่สวมรอยเป็นพนักงานของ Crypto.com เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อลิสต์เหรียญ Glow บนเว็บเทรด ซึ่งหลังจากการเจรจาและดำเนินการด้านเอกสารเป็นเวลานานหลายเดือน Lawrence ได้โอนเงินไปยังบัญชีที่เขาเชื่อว่าเป็นของ Crypto.com
แต่ในเดือนมีนาคม เจ้าหน้าที่จาก Crypto.com ตัวจริงได้บอกกับ Lawrence ว่า เขาน่าจะถูกหลอกลวงโดยผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่มีบันทึกข้อตกลงการจดทะเบียนกับ Glow Token ใน Crypto.com แต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน Lawrence ก็ยืนยันว่าเขาระวังตัวเป็นอย่างมากในการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดระหว่างการเจรจาและดำเนินการจดทะเบียนกับตัวแทนปลอม เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงนั้นถูกต้องตามกฎหมาย
หลังจากสูญเสียเงินมากมายให้ผู้แอบอ้าง ตอนนี้ Lawrence กำลังหาทางแก้ไขด้วยวิธีทางกฎหมาย แม้เขาจะกล่าวว่า ประวัติการแชทของเขากับตัวแทน Crypto.com ตัวปลอมคนนั้นจะถูกลบในเวลาต่อมาก็ตาม
Lawrence เริ่มต้นบริษัทของเขาโดยมุ่งเน้นเรื่องการทำการกุศลและการตอบแทนคืนกลับสู่ชุมชน และความปรารถนาเพื่อมอบความรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับผลกระทบเชิงบวกของระบบกระจายศูนย์ ( DeFi)
แต่ในตอนนี้เขากลับกำลังต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจากความเครียดเรื่องการเงินของเขาจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถึง 4 ครั้ง และยังต้องขายบ้านอันเป็นที่รักของเขา “การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากบ้านของฉันมีคุณค่าทางจิตใจอย่างมาก” Lawrence กล่าว
หลังจากเปิดเผยกรณีของเขาเมื่อวานนี้ Lawrence ได้รับการสนับสนุนมากมายบน Twitter
แม้ว่าการหลอกลวงโดยใช้ชื่อของแพลตฟอร์มคริปโตที่เป็นที่รู้จักดี นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่การฟ้องร้องแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ไม่ธรรมดา ในการเรียกร้องการผิดชอบตามกฎหมาย Glow Token อ้างว่าแม้ว่า การหลอกลวงจะดำเนินการโดยบุคคลที่สาม แต่นักต้มตุ๋นนี้ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มของ Crypto.com เพื่อการหลอกลวงบริษัท Statup แห่งนี้ได้สำเร็จ บริษัทกล่าวหาว่า Crypto.com มีส่วนทำให้การฉ้อโกงนี้เกิดขึ้น เนื่องจากขาดการใช้กฎเพื่อรักษาความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน Crypto.com ยังคงไม่ได้ตอบกลับความเห็นดังกล่าวแต่อย่างใด
ที่มา: Decrypt