<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อดีตผู้บริหาร Goldman Sachs ชี้ ตลาด Crypto มีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนแซงหุ้นเทคโนโลยี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Raoul Pal อดีตผู้บริหาร Goldman Sachs และ CEO ของ Real Vision ได้อธิบายถึงจุดยืนของเขาที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านช่วง Ask Me Anything (AMA) ในช่อง YouTube

ในช่วงถามตอบ Pal กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้และนักลงทุนสามารถเป็นเจ้าของ อีกทั้งยังมีสิทธิ์ดำเนินการเปลี่ยนแปลงบางส่วนของเครือข่าย ซึ่งต่างจากเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมที่คนส่วนใหญ่สามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยการซื้อหุ้นของบริษัท

“Crypto เป็นเทคโนโลยีฐานข้อมูลแบบกระจายอำนาจ ซึ่งก็คือบล็อกเชน คุณสามารถใช้โทเค็นเพื่อแสดงมูลค่าใน chain นั้นได้ ซึ่งแตกต่างจากเครือข่ายอื่น ๆ สมมติว่าเครือข่าย telco คุณไม่สามารถเป็นเจ้าของส่วนแบ่งของเครือข่าย telco ได้ แต่สำหรับเทคโนโลยี Crypto คุณสามารถทำได้ด้วยโทเค็น ซึ่งจะให้ส่วนแบ่งของเครือข่ายแก่คุณ”

ถ้าหากจะตัวอย่างให้เห็นภาพตามคำกล่าวของ Pal เช่น แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบนบล็อกเชน ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของและสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มได้โดยการโหวตลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบเดิม โดยผู้ใช้จะเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มได้ ก็ต่อเมื่อซื้อหุ้นของบริษัทที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเท่านั้น แต่ถึงแม้จะซื้อหุ้นมา ผู้ใช้ก็ไม่สามารถโหวตเพื่อควบคุมแพลตฟอร์มได้

นอกจากนี้ Pal ยังกล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนจะ “ทำให้เกิดความขาดแคลน” ในอนาคต เพราะเขาเชื่อว่าความขาดแคลนจะสามารถเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลได้ เช่นเดียวกับสินทรัพย์ทางกายภาพที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดความขาดแคลน อย่างไรก็ตาม การคัดลอกและทำซ้ำเนื้อหาดิจิทัลนั้นสามารถทำได้ง่ายมาก และจะทำให้ยากต่อการสร้างความขาดแคลน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเพิ่มขึ้นของมูลค่าของสินทรัพย์

“ในขณะที่วิถีชีวิตของเราอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ เราจำเป็นต้องถ่ายโอน ย้าย บันทึก และจัดเก็บสินทรัพย์ที่มีมูลค่า เพราะสินทรัพย์ที่มีมูลค่ากำลังกลายเป็นดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ และในโลกดิจิทัล เราสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด (การคัดลอกและทำซ้ำเนื้อหา) ดังนั้นทุกสิ่งในรูปแบบดิจิทัลจะมีมูลค่าเป็นศูนย์ แต่บล็อกเชนจะช่วยให้คุณสร้างความขาดแคลนในโลกดิจิทัลได้”

ขณะเดียวกัน Pal ยังเชื่ออีกว่า Market Cycle ของ Crypto อาจ “ใหญ่กว่า” Market Cycle ของหุ้นเทคโนโลยี เนื่องจากเขาเชื่อว่า Crypto คือ เทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของเครือข่ายได้จริง ๆ แต่ถ้าหากเราลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี เราจะเป็นเจ้าของหุ้นของบริษัทเท่านั้น และการลงทุนของเราจะดีพอ ๆ กับบริษัทเท่านั้น และถ้าบริษัทล้มละลาย เงินลงทุนของคุณก็จะสูญเปล่า ซึ่งสิ่งนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยี Crypto ถึงทรงพลังมาก และมีแนวโน้มที่ Market Cycle ของ Crypto จะมีขนาดใหญ่กว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ในที่สุด

“Crypto cycles อาจใหญ่กว่ามาก เพราะคุณเป็นเจ้าของเครือข่ายจริง ๆ และเมื่อเครือข่ายเติบโตจนมีมูลค่ามากขึ้น มูลค่าของสินทรัพย์ Crypto ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน จนสามารถนำไปสู่ Market Cycle ขนาดใหญ่

ปกติแล้วถ้าคุณอยากมีส่วนร่วมกับ AI คุณต้องซื้อหุ้น Nvidia นั่นเป็นสิ่งเดียวที่คุณสามารถทำได้ แล้วคุณจะทำเงินได้เท่าไร? อาจจะ 2x หรือ 3x Tesla จะเพิ่มขึ้น 5x 6x 8x ได้หรือไหม? อาจจะใช่ 

แต่ในวัฏจักรของคริปโต คุณสามารถเป็นเจ้าของเครือข่ายได้จริง ๆ เป็นเจ้าของส่วนแบ่งในส่วนของ Nvidia, เครือข่าย AI และรายได้จากระบบนิเวศทั้งหมด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงทรงพลังมาก และมันมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้นเทคโนโลยีของบริษัท”

ที่มา: dailyhodl