ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (CBUAE) และหน่วงงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกมาประกาศแนวทางใหม่สำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน (VASP) ที่ให้บริการในประเทศ ถึงบทลงโทษสำหรับ VASP ที่ให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาต
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะกรรมการต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่องค์กรผิดกฎหมายแห่งชาติ (NAMLCFTC) และ CBUAE ได้ออกมาเผยแพร่รายชื่อผู้ให้บริการ VASP ที่กำลังถูกทางหน่วงงานจับตามอง
ซึ่งมีตั้งแต่ผู้ให้บริการที่ไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย, โฆษณาเกินจริง จนถึงขาดการเปิดเผยข้อมูลตามกฎระเบียบ
โดยหน่วงงานกำกับดูแลอนุญาตได้ขอให้สถาบันทางการเงินและ VASP ที่ได้รับที่ได้รับใบอนุญาต ในการช่วงตรวจสอบและรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย
“ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์เสมือนที่ไม่มีใบอนุญาตนั้น สามารถรายงานผ่านกลไกการแจ้งเบาะแส เพื่อช่วยหน่วยงานกำกับดูแลสามารถดูแลรักษากฎหมายและปกป้องระบบการเงินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”
ในรายงานใหม่นี้ยังได้ระบุไว้อีกว่า VASP ที่เปิดให้บริการในประเทศโดยไม่มีใบอนุญาตนั้น จะถูกลงโทษทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งไม่จำกัดเพียงกิจการ เจ้าของ หรือผู้จัดการอาวุโส นอกจากนี้หน่วงงานที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว จำเป็นต้องช่วยเหลือในการจัดการกิจการที่ไม่ได้รับใบอนุญาตด้วย
Khaled Mohamed Balama ผู้ว่าการ CBUAE และประธาน NAMLCFTC ได้ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการแถลงข่าวว่า แนวทางใหม่นี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองกับสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น และเมื่อเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตขึ้น เราจำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ในขณะที่ Irina Heaver ทนายความของ UAE ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวว่า แนวทางใหม่นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ UAE ที่จะถอนตัวเองออกจาก รายชื่อสีเทาของ Financial Action Task Force (FATF) ซึ่งแสดงว่าประเทศนั้นมีข้อบกพร่องในการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย (CTF)
โดยในเดือนมีนาคม 2022 ที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อสีเทาของ FATF ที่จะต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามประเทศได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะเฝ้าระวังกับ AML และ CTF ให้มากขึ้น
ซึ่งตัว Heaver เชื่อว่าประเทศจะหลุดออกจากรายชื่อสีเทาภายในปี 2024 ซึ่งจะเป็นการตรงการตรวจสอบของ FATF ครั้งต่อไป
ที่มา: CryptoTelegraph