Lars Holmquist ศาสตราจารย์ด้านการออกแบบ และนวัตกรรม จากมหาวิทยาลัย Trent เมือง Nottingham ของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า นักจิตวิทยาเคยได้ทำการพิสูจน์ในอดีตแล้วว่า มนุษย์ตีความปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ ว่าเป็น ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่แท้จริงซึ่งอาจนำไปสู่การบูชา AI ให้กลายเป็นดั่งเทพเจ้า
เหล่าผู้เชี่ยวชาญนอกเหนือจากเขาต่างเชื่อว่าในอนาคตนั้นมนุษย์อาจละทิ้งความเชื่อทางศาสนาแบบดั้งเดิม และหันมาหาความเชื่อที่อิงจากเทคโนโลยีมากขึ้น และได้เตือนถึงข้อความตอบกลับจาก bots เหล่านี้เช่น ChatGPT ที่กำลังล่อล่วงให้ผู้คนค้นหาความหมายลึกซึ้งจากมัน
Holmquist กล่าวว่า ผลลัพธ์การตอบกลับของ generative AI นั้นตีความได้หลากหลาย โดยมีความเป็นไปได้ว่าผู้คนอาจใช้ AI ในการค้นหา ความหมาย หรือ คำแนะนำทางจิตวิญญาณเหมือนกับคำสอนของศาสนา แม้ว่ามันจะไม่มีความหมายใด ๆ เลยสำหรับ AI ซึ่งก็ได้มีหลายคนพยายามอ้างว่า chatbot นั้นมีสติ มีจิตสำนึกรู้ตัว ซึ่งในความเป็นจริงมัน “ไม่มี” เกิดประเด็นทางเทววิทยาที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่เชื่อว่ามนุษย์เป็นสิ่งพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า
ในอดีตเมื่อปี 2015 Anthony Lewandowski ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีได้ก่อตั้ง Way of the Future ขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างบอท AI เพื่อให้ผู้ติดตามได้บูชา แต่เป็นเรื่องดีที่มันได้ปิดตัวลงไปแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ว่าในขณะนี้ ณ อีกมุมหนึ่งของโลกมีหุ่นยนต์นักบวชสูงเกือบ 2 เมตรกำลังเทศน์อยู่ที่วัดโคดาจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ถัดมาในด้านความเคลื่อนไหวของแนวคิดกันบ้าง ในปัจจุบันมีกลุ่มแนวคิด transhumantist เกิดขึ้นมา ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าในอนาคต AI จะเป็นสะพานที่ให้มนุษย์ได้เกิดใหม่เป็นตัวตนที่สูงส่งยิ่งกว่าเดิมดุจพระเจ้า และผู้ที่ติดตาม “The Singularity” ต้องการให้มนุษย์ผสานเข้ากับเทคโนโลยี เปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร ขณะที่หลายคนเชื่อว่า AI ภาษาบางตัวเช่น ChatGPT กำลังจะมีจิตสำนึกขึ้นมา ขณะที่ Blake Lemoine นักวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Google ถูกไล่ออกจากงานเมื่อปี 2022 หลังอ้างว่า LaMDA AI chatbot ของ Google นั้นตระหนักรู้ในตนเอง ซึ่งทาง Google ก็ได้ตอบกลับว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
Lars กล่าวเสริมว่า ความสามารถอันสุดยอดของ AI เช่น ChatGPT อาจส่งผลให้ผู้คนปฏิบัติต่อมันเสมือนมีชีวิต ซึ่งวันหนึ่งอาจนำไปสู่การบูชาพวกเขา ซึ่งมาตอนนี้เขามองว่า AI และหุ่นยนต์ มีหน้าที่เสมือนเป็นตัวช่วยให้กับองค์กรทางศาสนามากกว่า เหมือนกับการที่เหล่าบริษัทใช้ AI ในการติดต่อกับสื่อสารกับลูกแค่ แต่เป็นการเผยแพร่คำสอนแทน ซึ่งตอนนี้เขายังไม่พบเห็นว่ามี AI ตัวไหนถูกบูชาในขณะนี้ แต่เขาจะไม่แปลกใจถ้าอนาคตมีคนบูชามันขึ้นจริง ๆ
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน AI มีผลอย่างมากต่อปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ซึ่งนับวันจะยิ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยกตัวอย่างเช่น Lexi โมเดลหญิงที่เป็น AI สามารถทำเงินได้มากกว่าเดือนละ 30,000 ดอลลาร์ เพียงเพราะว่ามีคนอยากนำมันไปเป็นแฟนสาวจำลอง และจากบทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญในข้างต้นทำให้เราเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านความรัก หรือความเชื่อต่างได้รับผลกระทบจาก AI ทั้งสิ้น ทั้งนี้คงไม่มีใครอยากให้อนาคตของโลกมนุษย์เป็นเหมือนกับภาพยนต์ ฅนเหล็ก หรือ The Matrix กันหรอก