<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักพัฒนา Ethereum เปิดตัวโปรเจกต์ “Pump the Gas” เพื่อยกระดับขีดจำกัดการใช้แก๊ส

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักพัฒนาให้เหตุผลว่า การเพิ่มขีดจำกัดการใช้แก๊สเป็น 40 ล้าน ซึ่งจะช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบน layer-1 ของ Ethereum ลงประมาณ 15 ถึง 33%

ในวันที่ 20 มีนาคม Eric Connor นักพัฒนาหลักของ Ethereum ร่วมกับ Mariano Conti อดีตหัวหน้าฝ่ายสัญญา smart contracts ของ MakerDAO ได้เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ชื่อว่า “Pump the Gas” เว็บไซต์นี้มีเป้าหมายในการผลักดันให้มีการเพิ่มขีดจำกัดการใช้แก๊สของ Ethereum จาก 30 ล้าน เป็น 40 ล้าน ซึ่งนักพัฒนาเชื่อว่า การเพิ่มขีดจำกัดดังกล่าว จะช่วยลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมบน layer 1 ของ Ethereum

Eric Connor โพสต์ข้อลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 19 มีนาคม โดยกล่าวว่า “การเพิ่มขีดจำกัดการใช้แก๊สนี้จะช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบน layer 1  ได้ประมาณ 15 ถึง 33%” เขายังกล่าวต่ออีกว่า “พวกเรากำลังเรียกความช่วยเหลือจากผู้ตรวจสอบเดี่ยว (solo stakers), ทีมฝ่ายบริการลูกค้า(client teams), กลุ่มผู้รวบรวม (pools) และสมาชิกชุมชน”

กระแสตอบรับแฮชแท็ก #pumpthegas เริ่มได้รับการสนับสนุนจากผู้ใช้งาน Ethereum , ผู้ถือครองเหรียญเพื่อการ Staking และนักลงทุน DeFi บน X นอกจากนี้ Mariano Conti ยังสังเกตเห็นว่า ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง (validator) จาก Rocket Pool ได้เสนอ Block ใหม่บนเครือข่ายที่มีขีดจำกัดการใช้แก๊สที่ 40 ล้าน  เมื่อวันที่ 20 มีนาคม

กระแสการเรียกร้องให้เพิ่มขีดจำกัดการใช้แก๊สของ Ethereum มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนมกราคม  Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้เสนอแนะให้เพิ่มขีดจำกัดการใช้แก๊สจาก 30 ล้าน เป็น 40 ล้าน (เป็นตัวเลขที่โปรเจกต์ “Pump the Gas” ต้องการเช่นกัน) ซึ่งขีดจำกัดการใช้แก๊สของ Ethereum ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 

ผู้สนับสนุนอย่าง Jesse Pollak กล่าวว่าเขา “สนับสนุนอย่างยิ่ง” ในการเพิ่มขีดจำกัดของ Ethereum Gas เป็น 40 หรือ 45 ล้าน “เรามีเครือข่ายที่ว่างอยู่และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” เขากล่าวเสริม

ขีดจำกัดของ Ethereum Gas หมายถึง ปริมาณแก๊สสูงสุดที่ใช้ในการทำธุรกรรมหรือสัญญา smart contracts ในแต่ละบล็อค ส่วน Gas คือค่าธรรมเนียมที่จำเป็นในการทำธุรกรรมหรือดำเนินการสัญญา smart contracts บนเครือข่าย

เว็บไซต์อธิบายว่า การดำเนินการแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายแก๊สที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และสัญญามีขีดจำกัดแก๊สที่ไม่สามารถใช้เกินได้ในระหว่างการดำเนินการ สิ่งนี้จะป้องกันไม่ให้สัญญาที่เป็นอันตรายโอเวอร์โหลดบนเครือข่ายมากเกินไปด้วยการวนซ้ำไม่สิ้นสุดหรือการใช้ทรัพยากรมากเกินไป

“การเพิ่มขีดจำกัดของบล็อกแก๊ส 33% ทำให้ Ethereum Layer 1 สามารถประมวลผลสำหรับการโหลดธุรกรรมได้มากขึ้น 33% ภายในหนึ่งวัน” 

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า data blobs ซึ่งเปิดตัวในการอัปเกรด Dencun ด้วย EIP-4844 ช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของ layer-2  ได้อย่างมาก แต่ไม่ส่งผลกับค่าธรรมเนียมของ Layer 1   บทความสรุปว่า “การรวมกันของ blobs และการเพิ่มขีดจำกัดของแก๊สสามารถช่วยปรับขนาดทั้ง L1 และ L2 Ethereum ได้” 

ที่มา : cointelegraph