<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา FTM พุ่ง 20% หลังการเปิดตัว Fantom Sonic โซลูชันปรับขนาดของ Fantom

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เทคโนโลยี sonic ของ Fantom ประมวลผลธุรกรรมได้สูงถึง 2,000 TPS พร้อมสิ้นสุดธุรกรรมได้ภายในเสี้ยววินาที ราคา FTM จึงมีแนวโน้มที่จะพุ่งทะลุ 2 ดอลลาร์

เหรียญ FTM ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลประจำแพลตฟอร์ม Fantom ราคาพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา โดยราคาเพิ่มขึ้น 20% แตะระดับ 1.22 ดอลลาร์ สืบเนื่องมาจากการเปิดตัว Fantom Sonic ซึ่งเป็นโซลูชันใหม่ที่จะช่วยปรับปรุงการปรับขนาดของแพลตฟอร์ม Fantom

ในขณะที่เขียน ราคาเหรียญ FTM มีการซื้อขายอยู่ที่ 1.15 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.63% มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 3.22 พันล้านดอลลาร์ สิ่งน่าสนใจคือปริมาณการซื้อขายประจำวันพุ่งสูงขึ้นถึง 80% แตะที่ 535 ล้านดอลลาร์

Fantom เปิดตัวเทคโนโลยี Sonic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปรับขนาด

Fantom ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี Sonic ซึ่งมุ่งปฏิวัติแนวทางการปรับขยายขนาดของบล็อกเชน ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นผลลัพธ์จากการวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถัน ต่อยอดมาจากเครือข่าย Opera ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2019

ภายใต้การนำของ Andre Cronje ผู้มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและทีมเทคนิคผู้ทุ่มเท  เครือข่าย Opera ถือเป็นก้าวสำคัญในฐานะโปรโตคอลแบบ permissionless Directed Acyclic Graph (DAG) ตัวแรก ซึ่งความสามารถอันน่าประทับใจ  เช่น ประมวลผลธุรกรรมได้สูงสุดเกือบ 200 รายการต่อวินาที (TPS) และใช้เวลาสิ้นสุดธุรกรรมน้อยกว่า 600 มิลลิวินาที  แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่เหนือกว่าด้านความสามารถในการปรับขยายขนาดและความเร็วของธุรกรรม  เมื่อเปรียบเทียบกับความสามารถของ Ethereum ในช่วงเวลานั้น

ถึงแม้ว่าเครือข่าย Opera จะประสบความสำเร็จ  แต่ก็ยังคงประสบกับปัญหาสภาวะเครือข่ายติดขัดในช่วงที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก  ซึ่งส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานที่ด้อยลง ด้วยเหตุนี้ ทีมพัฒนา Fantom จึงใช้เวลาถึง 2 ปีในการพัฒนาเทคโนโลยี Sonic เพื่อเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้  และมุ่งหวังที่จะเข้าสู่ยุคใหม่ของความสามารถในการปรับขยายขนาดของบล็อกเชน

เทคโนโลยี Sonic ของ Fantom นำเสนอการพัฒนาที่ก้าวล้ำครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมได้มากถึง 2,000 รายการต่อวินาที (TPS) พร้อมสิ้นสุดธุรกรรมภายในไม่ถึงวินาที  ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสิทธิภาพอย่างมาก เมื่อเทียบกับความสามารถของเครือข่าย Opera  อีกทั้งยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาด้านนวัตกรรมของทีม Fantom

ด้วยความสามารถทางเทคนิคอันเหนือชั้นของ Sonic ทีม Fantom ตั้งเป้าที่จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชนไปสู่มาตรฐานใหม่  เท่านั้นยังไม่พอ เทคโนโลยีนี้ยังจะกลายเป็นรากฐานสำคัญสำหรับ shared sequencer ซึ่งมีความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมกว่า 180 ล้านรายการต่อวัน พร้อมด้วยการยืนยันธุรกรรมแบบเรียลไทม์

ที่มา : CoinGape