ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงต่ำกว่า 22,000 ดอลลาร์อีกครั้งหลังจากที่ FOMC ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงขึ้นกว่าเดิมอีก 0.1% จากเดือนสิงหาคม
แม้ว่าในเดือนสิงหาคมจะมีการเปิดเผยตัวเลข CPI ออกมาในเชิงบวกเป็นอย่างมากจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันที่เปิดเผยตัวเลข CPI ที่มากขึ้นกว่าเดิมถือเป็นสิ่งที่นักลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากเนื่องจากพวกเขาต้องการกดดันให้ทางการลดอัตราดอกเบี้ยลง
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนได้เห็นการเพิ่มขึ้นของตัวเลข CPI มาแล้วมากถึง 8.3%
Consumer Price Index (CPI) คือการวัดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยเมื่อเวลาผ่านไปของราคาที่ผู้บริโภคในเมืองจ่ายสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการในตลาด โดยวัดผลจากสินค้าและบริการในสหรัฐอเมริกาและพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลราคาเฉลี่ยสำหรับรายการสาธารณูปโภค เชื้อเพลิงยานยนต์ และอาหาร
แม้ในเดือนสิงหาคมจะมีการเปิดเผยอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นถึง 3.5% ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า FED สามารถใช้มาตรการที่รุนแรงน้อยกว่าเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อลงสู่อัตราเป้าหมาย 2% ตามที่คาดไว้ซึ่งอาจหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลอย่างไรในปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาทุกอย่างแล้ว ความเสี่ยงที่สำคัญของตลาดหมีที่ยืดเยื้อยังคงอยู่ เช่น วิกฤตพลังงานในยุโรปยังคงมีอยู่และคาดว่าจะเลวร้ายลงในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง อีกทั้งการตัดจ่ายก๊าซที่อาจเกิดขึ้นจากรัสเซียอาจทำให้บางประเทศในยุโรปที่พึ่งพาพลังงานของรัสเซียเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน Bitcoin ซื้อขายอยูที่ระดับราคา 21,390 ดอลลาร์ลดลง 2.82% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาแต่เพิ่มขึ้น 9.04% ใน 7 วันที่ผ่านมา