<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Ethereum ร่วงดิ่งกว่า 20% หลัง SEC กล่าวจะควบคุมเครือข่ายให้อยู่ภายใต้อำนาจรัฐ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Ethereum ร่วงดิ่งลดลงกว่า 20% หลังจาก SEC หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ กำลังพยายามที่จะประกาศชัยชนะเหนือกว่าเครือข่าย Ethereum แม้ว่าในขั้นต้นเครือข่ายจะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนกลไกไปสู่ POS เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม

โดยล่าสุดเครือข่าย Ethereum ได้รับการประกาศให้อยู่ภายใต้เขตอำนาจของรัฐบาลสหรัฐฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก validator nodes ที่รักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายส่วนใหญ่นั้นกระจาตัวยอยู่ในสหรัฐอเมริกา

หลังจากข่าวดังกล่าวเริ่มแพร่สะพัดออกไป สิ่งนี้ก็ส่งผลให้ราคาของเหรียญ ethereum ร่วงดิ่งลดลงถึง 20% มาอยู่ที่ราคา 1,364 ดอลลาร์ ณ ในขณะที่รายงาน

อย่างไรก็ตามความคิดเห็นล่าสุดจาก Gary Gensler หัวหน้าสำนักงาน ก.ล.ต. ยังได้ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในเครือข่าย Ethereum เริ่มสั่นคลอนมากยิ่งขึ้นไปอีก

ตามรายงานจาก Wall Street Journal เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา  หัวหน้าสำนักงาน ก.ล.ต.ได้อ้างถึงกระบวนการ Stake เพื่อรับรางวัล ของเครือข่าย Ethereum พร้อมระบุว่า สินทรัพย์ที่มีลักษณะดังกล่าวนั้นเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ภายใต้การทดสอบ Howey Test แม้ว่าตัวของเขาจะไม่ได้มีการระบุชื่อสกุลเงินดิจิทัลหรือเครือข่ายใดแบบฉพาะเจาะจงก็ตาม”

หลังจากที่ Ethereum ได้เปลี่ยนไปใช้ Proof of Stake แน่นอนว่า เครือข่ายได้ลดการใช้พลังงานลงสำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม นอกจากนั้น นักลงทุนยังสามารถนำเหรียญ ETH ของตัวเองเพื่อนำไป Stake เพื่อเป็น Node รักษาความถูกต้องของธุรกรรมบนเครือข่าย และยังได้ผลตอบแทนจากการ Stake อีกด้วย

การทำกำไรจาก โดยการนำเหรียญไป Stake ได้ดึงดูดความสนใจของ Gensler และทำให้นักลงทุน crypto กังวลเกี่ยวกับจัดประเภทของ Ethereum ในอนาคต ว่าอาจเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์

นอกจากนี้ การยื่นฟ้องคดีของ SEC ต่อนาย ‘Ian Balina’ Crypto influencer เมื่อวันจันทร์ ในข้อหาไม่จดทะเบียนหลักทรัพย์ ก่อนเปิดระดมทุน ICO ในปี 2018 ยังส่งสัญญาณบอกใบ้เป็นนัย ๆ แล้วว่าเครือข่ายของ Ethereum นั้นอยู่ภายใต้เขตอำนาจของรัฐบาลสหรัฐฯ

โดย ก.ล.ต. ระบุว่า ETH ที่ส่งไปให้กับ Balina ในปี 2018 นั้น “ถูกตรวจสอบโดยเครือข่ายโหนดบนบล็อกเชน Ethereum ซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกามากกว่าในประเทศอื่น ๆ และด้วยเหตุนี้ ธุรกรรมเหล่านั้นจึงเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและอาจตกอยู่ภายในอำนาจกฏหมายหลักทรัพย์”

อย่างไรก็ตาม หากเครือข่าย Ethereum ถูกจัดว่า เป็นหลักทรัพย์ สิ่งนี้จะทำให้ Ethereum และแอปพลิเคชันใด ๆ ที่ใช้งานนั้นต้องผ่านขั้นตอนการลงทะเบียนที่ยิดเยื้อยาวนานกับ SEC

และหาก ETH ถูกมองเป็นหลักทรัพย์ นั่นหมายความว่า Ethereum มีการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนมาหลายปีแล้ว และอาจนำไปสู่การฟ้องร้องคดีต่อ Ethereum Foundation กระดานแลกเปลี่ยนจำนวนมากที่เปิดให้ซื้อขาย  Ethereum และเหรียญ ERC-20 ส่วนใหญ่ตามมา

ที่มา : yahoo