Bobby Moran CEO คนใหม่ ของ The Block กล่าวว่าไม่มีหลักฐานว่า Mike McCaffrey มีอิทธิพลต่อการรายงานข่าวของ Sam Bankman-Fried, FTX หรือ Alameda Research อย่างไม่เหมาะสมในเว็บไซต์ข่าว
ทั้งนี้ Bobby Moran CEO ของ The Block ได้ประกาศว่าเขาจะเข้ารับตำแหน่ง CEO หลังจากการลาออกของ Mike McCaffrey หลังมีรายงานว่าได้ให้เงินสนับสนุนแพลตฟอร์มผ่านการกู้ยืมจาก Alameda Research
ในการประกาศเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม Moran กล่าวว่า McCaffrey ได้ตัดสินใจที่จะปรับโครงสร้างของ The Block ในปี 2021 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินกู้สองก้อนมูลค่ารวม 27 ล้านดอลลาร์จาก Alameda Research ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของ FTX Group ของอดีต CEO Sam Bankman-Fried โดย Axios รายงานว่ามีเงินกู้ 16 ล้านดอลลาร์ที่สามในปี 2022 ที่ McCaffrey ใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในบาฮามาส
จากคำกล่าวของ Moran อดีต CEO ของ The Block ล้มเหลวในการเปิดเผยเงินให้กู้ยืมแก่ทีมผู้บริหารซึ่งแสดงให้เห็นถึง “การขาดวิจารณญาณอย่างร้ายแรง” ซึ่งผู้นำของเวทีขอให้ Moran ลงจากตำแหน่งในทันที
“ไม่มีใครใน The Block ที่รู้เรื่องข้อตกลงทางการเงินนี้นอกจาก Mike จากประสบการณ์ของเราเอง เราไม่พบหลักฐานว่า Mike พยายามโน้มน้าวห้องข่าวหรือทีมวิจัยอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรายงานข่าวของ SBF, FTX และ Alameda Research”
จากข้อมูลของ LinkedIn ของ McCaffrey เขากลายเป็น CEO ในเดือนเมษายน 2020 หลังจากแยกการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่แพลตฟอร์มตั้งแต่ปี 2018 ปัจจุบันอดีต CEO ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2021
Frank Chaparro บรรณาธิการใหญ่ของ The Block กล่าวว่า “ผมรู้สึกเสียใจอย่างมากกับข่าวนี้ ซึ่งได้รับการรายงานสรุปไปยังบริษัทในช่วงบ่ายวันนี้ สิ่งที่ตอกย้ำความตกใจของผมคือความรู้สึกขยะแขยงและการหักหลังจากการกระทำของ Mike เนื่องจากความโลภและความไม่จริงใจ สิ่งนี้ทำให้เขาเป็นขยะอย่างแท้จริง เขาเก็บพวกเราทุกคนไว้ในความมืด”
The Block โพสต์รายการการลงทุนของ Alameda Research ในบัญชี Twitter ของเขาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งรวมถึงเงินให้กู้ยืมสองรายการแก่แพลตฟอร์มแต่ไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินระหว่างเว็บไซต์ข่าวและกองทุนเฮดจ์ฟันด์
อย่างไรก็ตามหลังจากการยื่นฟ้องล้มละลายของ FTX เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สำนักข่าวหลายแห่งได้เปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินระหว่างบริษัท Bankman-Fried หรือ FTX Group และบุคคลสำคัญทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติจากทั้งสองฝ่ายในคณะกรรมการสอบสวนการล่มสลายของกระดานเทรดอีกด้วย