หลังจากที่ PayPal ประกาศให้ผู้ใช้งานในไทยต้องยืนยันตัวตน (NDID) ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 โดยในขณะนี้ ถ้าหากผู้ใช้งานคนใดยังไม่ยืนยันตัวตน ก็จะไม่สามารถใช้งาน PayPal ได้ แต่จะยังคงสามารถถอนเงินที่ค้างอยู่เข้าบัญชีได้ ดังนั้นหลายคนที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนตามกำหนด ก็เลือกที่จะถอนเงินออกให้หมดจนเหลือ 0 เพื่อปิดบัญชีเดิม แล้วสมัครใหม่โดยใช้อีเมลใหม่
อย่างไรก็ตาม PayPal ที่สมัครใหม่จะกลายเป็น PayPal Thailand ซึ่งหากอิงตามนโยบายกฎหมายของไทยจะมีสิ่งที่แตกต่างจาก Paypal ต่างประเทศ คือ บัญชีประเภทบุคคลของ PayPal ประเทศไทย จะยังคงสามารถรับการชำระเงินฯ โดยสามารถออกและส่งใบแจ้งหนี้ (Invoice) ให้กับทางลูกค้าได้ รวมไปถึงผู้ใช้บริการ PayPal ประเทศไทย ยังคงสามารถใช้จ่ายออนไลน์ รวมทั้งส่งและรับการชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้ (ในสกุลเงินบาท)จากทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย
แน่นอนว่าจากปัญหาดังกล่าว ทำให้ในขณะนี้การชำระเงินด้วย Bitcoin (PSP) เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถนำมาใช้ได้ทุกที่ไม่มีขอบเขตบนโลกออนไลน์ และสามารถรับชำระเงินเป็น Bitcoin บนแพลตฟอร์ม e-commerce เกือบทุกชนิดได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือธุรกิจออนไลน์บนเว็บไซต์หรือบนแอปพลิเคชัน
การรับชำระเงินแบบ PSP สามารถทำได้ทั้งการส่งอีเมลไปหาลูกค้าพร้อมแนบลิงก์สำหรับการชำระเงิน หรือให้ลูกค้าแสกนผ่าน QR code ที่สร้างจากเว็บไซต์ของ bitcoinpay ซึ่งจะเห็นว่า PSP เป็นอีกหนึ่งวิธีการรับชำระเงินที่สะดวก รวดเร็ว และไม่ซับซ้อนเท่าไรนัก
ดังนั้นการชำระเงินด้วย Bitcoin จึงถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาการรับชำระเงินด้วย PayPal ได้เป็นอย่างดี โดยทางด้านอาจารย์ตั๊ม พิริยะ สัมพันธารักษ์ ก็ยังได้ชี้ไปทางเดียวกันอีกด้วยว่า
ในปัจจุบันมีเว็บไซต์หลายแห่งที่ให้บริการ PSP เช่น bitpay, coinify และ bitcoinpay แต่ทั้งนี้เว็บไซต์แต่ละแห่งรายจะมีค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ดังนั้นผู้ที่สนใจจึงควรศึกษาข้อมูลก่อน เพื่อที่จะสามารถเลือกเว็บไซต์ที่ให้บริการ PSP ให้เหมาะที่สุดสำหรับธุรกิจ
ที่มา: SasinT Gallery, paypal, th.vpnmentor, Piriya Sambandaraksa