มันเป็นเรื่องที่ทั่วไปที่นักลงทุนจะมองหาเหรียญที่มีโอกาสทำไรมากอยู่เสมอ ปี 2023 ก็เช่นกันเพราะดูแล้วปี 2023 จะเป็นปีที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการถือระยะยาว เนื่องจากเหรียญมีราคาถูกทั้งกระดาน และดูเหมือนมันพร้อมจะกลับมาขึ้นอีกครั้งในรอบต่อไป คาดการณ์ตลาดกระทิงรอบต่อไปจะเกิดขึ้นในปี 2023 นี่คือห้าคริปโตที่อาจจะเติบโตอย่างมากในปี 2023 และปีต่อ ๆ ไป:
- Metacade (MCADE)
- Decentraland (MANA)
- XRP (XRP)
- Shiba Inu (SHIB)
- Polygon (MATIC)
1. Metacade (MCADE)
Metacade (MCADE) กำลังสร้างอาร์เคดที่ใหญ่ที่สุดบนบล็อกเชน และอาจผลักดันให้คริปโตเติบโตไปกับอุตสาหกรรมเกมที่กว้างมากขึ้น ใน Metacade ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเกม Play-to-earn(P2E) ที่มีการคัดสรรมาให้ และสามารถเข้าร่วมการแข่งขันพิเศษเพื่อชิงรางวัลเป็นโทเคน MCADE
นอกจากนั้น Metacade ยังช่วยเชื่อมโยงผู้ใช้ Web3 ในแบบที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโปรเจกต์อาจมีการเติบโตอย่างมากในปี 2023 ชุมชน Metacade สามารถรวมตัวกันและข้อมูลใหม่ล่าสุดของเกมบล็อกเชน ในขณะที่ยังได้รับรางวัลจากการมีส่วนร้วมกับชุมชนอีกด้วย
Metacade ยังช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม GameFi ผ่านโปรแกรม Metagrants โปรแกรมที่จะช่วยให้ชุมชน Metacade โหวตเลือกจากการนำเสนอเกมบล็อกเชนมาใหม่ที่ดีที่สุด และจากนั้น Metacade จะส่งมอบเงินทุนให้นักพัฒนาโปรเจกต์ สำหรับนักพัฒนาเกม บริการนี้เป็นบริการที่มีค่ามาก โดยโปรแกรมนี้ของ Metacade เป็นการช่วยเร่งระดับนวัตกรรมเกมของ Web3
ทำไมถึงต้องซื้อ MCADE?
Metacade ให้ประสบการณ์การเล่นเกม P2E แบบมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง มีช่องทางการรับโทเคนแบบพาสซีพอินคัม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระบบนี้จะต้องดึงผู้ใช้มาได้จำนวนมากแน่ ๆ มันมีโอกาสที่จะสร้างการเติบโตของคริปโตให้สูงขึ้น เนื่องจากมีผู้คนซื้อและถือโทเคน MCADE มากขึ้น เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมของ Metacade, MCADE อาจพุ่งในช่วงปี 2023 และมีมูลค่าไปถึง $1 – เพิ่มมากถึง 50x จากราคา Presale
สำหรับตอนนี้ โทเคน MCADE มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าจริงมาก ช่วงเบต้าของ Presale ดึงดูดเงินทุนมาได้กว่า 1 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสามสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าคริปโตเคอร์เรนซีจะมีการเติบโตอย่างมากในปี 2023
ตอนนี้โทเคนมีราคาเพียง $0.008 เมื่อสิ้นสุด Presale ราคาจะเพิ่มขึ้นไปถึง $0.02 เป็นโอกาสดีที่หายากให้นักลงทุนที่ลงทุนก่อนได้สร้างกำไรก้อนใหญ่ในช่วงตลาดหมี
>>> คุณสามารถเข้าร่วม Pre-sale ของ Metacade ที่นี่
2. Decentraland (MANA)
Decentraland (MANA) เป็นโลกเสมือนจริงที่เป็นเจ้าของโดยชุมชนอยู่บนบล็อกเชน Ethereum สกุลเงินดิจิทัล MANA เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์ม Decentraland และเป็นตัวขับเคลื่อน Decentraland
ใน Decentraland ผู้ใช้สามารถซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลใน Metaverse หลังจากซื้อที่ดิน ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา 3D, สร้างแอปพลิเคชันและเกมของตนเองแทบจะไม่มีขีดจำกัดเลยว่าผู้ใช้สามารถสร้างอะไรได้บ้าง ซึ่งเป็นการช่วยสร้าง Metaverse แบบโลกเปิดที่แผ่กิ่งก้านสาขาเต็มไปด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้สำรวจได้มากมาย
Decentraland ยังให้ผู้ใช้สามารถสร้างกฏให้เกมของตนเอง และตั้งระบบประมูลการซื้อที่ดิน ซึ่งอาจเป็นการช่วยให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการทำเงินจากผลงานดิจิทัลในรูปแบบใหม่ ๆ และน่าตื่นกว่าเดิม
ทำไมต้องซื้อ MANA?
Metaverse ได้มีการเติบโตที่ยิ่งใหญ่และมีการขยายการพัฒนาบล็อกเชนอย่างต่อเนื่อง Decentraland เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ชั้นนำที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและทำเงินจากเนื้อหาของตัวเองได้ รู้จักกันในชื่อ เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างเอง (UGC) นอกจากนั้น มันยังอยู่บนแพลตฟอร์ม Decentraland แพลตฟอร์มที่จะช่วยเร่งการเติบโตของมันได้
แอปพลิเคชันกระจายศูนย์(dApps) ยังช่วยให้คริปโตเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ใช้มองหาการการดูแลตนเองและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นสามารถสร้างสินทรัพย์ในเกมและภูมิทัศน์ดิจิทัลต่าง ๆ ของตัวเอง โดยไม่ต้องใช้ประสบการณ์ด้านการเขียนโปรแกรม
Decentraland ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลามในช่วงตลาดกระทิงปี 2021 และดูเหมือนพร้อมที่จะกลับไปราคาสูงสุดเดิม $5.91 ในช่วงตลาดกระทิงรอบต่อไป เนื่องจากคริปโตมีการเติบโตกระจายเป็นวงกว้าง ด้วยราคาปัจจุบันอยู่ที่ $[x], MANA ดูเป็นตัวเลือกการลงทุนที่แข็งแกร่งสำหรับปี 2023
3. XRP (XRP)
XRP หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Ripple เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชนที่สนับสนุนการเงินตามเวลาจริง เครือข่าย XRP ช่วยให้การโอนเงินทำได้อย่างรวดเร็วและราคาไม่แพง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถประหยัดเงินจากการทำธุรกรรมระดับสากลได้ 50-60%
XRP มีการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมนักวิเคราะห์ถึงคาดว่ามันเป็นโทเคนที่จะมีการเติบโตอย่างมาก อย่างที่รู้กันมันเป็นสินทรัพย์หลักของ RippleNet ระบบการจ่ายเงินระดับองค์กรที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมฟินเทคมากว่า 10 ปี RippleNet ใช้โทเคน XRP สำหรับการทำธุรกรรมข้ามประเทศ ซึ่งมันช่วยลดเวลาสำหรับธนาคารในการทำกระบวนการจ่ายเงินระดับสากล
The XRP Ledger (XRPL) เป็นเครือข่ายกระจายศูนย์ที่รองรับแอปพลิเคชันและ Smart contracts โดยมี XRP เป็นสกุลเงินของเครือข่าย คริปโตเคอร์เรนซีต่าง ๆ บน XRPL ใช้ XRP ในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ XRP ยังถูกใช้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมบนเครือข่ายอีกด้วย
ทำไมต้องซื้อ XRP?
XRP มีคดีความที่ยืดเยื้อยาวนานกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ข่าวนี้อาจจะดูลบ แต่หลาย ๆ คนเชื่อว่า XRP จะเอาชนะคดีความได้โดยไม่โดนฟ้องร้อง ผลลัพธ์ XRP จะได้รับอนุมัติจากผู้กำกับดูแลของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลด้านบวกต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก
Ripple บริษัทผู้สร้าง XRP ได้เป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินระดับใหญ่ทั่วโลก รวมถึง JP Morgan และ Bank of England การเป็นพันธมิตรเหล่านี้ส่งผลกับมูลค่าของ RippleNet และมันอาจช่วยระบบการเงินของโลกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทางด้านผลลัพธ์นักลงทุนคาดว่าราคาของ XRP จะเพิ่มขึ้นอย่างมากถ้าหากผ่านเรื่องคดีความกับ SEC และ Ripple ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้วยประสิทธิภาพที่ไม่ดีในช่วง 2021, XRP อาจจะมีการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ถ้ามีผลด้านบวกเกี่ยวกับคดีความกับ SEC มันจะเป็นผลบวกกับพอร์ตของนักลงทุนที่กำลังมองหาคริปโตที่จะเติบโตในปี 2023 ด้วย หลังจากมีข้อสรุปจากคดีความ XRP อาจมีราคาทะลุ $2 และเข้าสู่ช่วงค้นหาราคาได้
4. Shiba Inu (SHIB)
Shiba Inu, หรือ SHIB เป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงตลาดกระทิงปี 2021, Shiba Inu สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และออกแบบมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับเหรียญมีมอีกเหรียญ Dogecoin, Shiba Inu มีคุณสมบัติหลายอย่างคล้ายกับ Dogecoin มันขับเคลื่อนโดยชุมชน และเป็นการเริ่มต้นแบบสนุก ๆ สำหรับผู้ใช้ใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้ Web3
Shiba Inu ได้มีการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่หลังจาก 400 ล้านล้านโทเคนถูกส่งไปยังกระเป๋า Ethereum ของ Vitalik Butern ผู้สร้าง Ethereum จากนั้นมีการเผา 90% ของจำนวนรวมทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ามากถึง 6.7 พันล้านดอลลาร์ ผลจากการตลาดที่แปลกประหลาดนี้ คริปโต SHIB ได้ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกคริปโต และมีมูลค่าโตขึ้นว่า 900%
ตั้งแต่นั้นมา Shiba Inu ได้วางแผนขยายการใช้งานของโทเคน SHIB, Shibarium เครือข่าย Layer 2 บน Ethereum ที่มีแผนจะเปิดตัวในปี 2023 ซึ่งจะทำให้ชุมชน Shiba Inu มีช่องทางที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ในการทำธุรกรรมกับ SHIB นอกจากนั้น Shiba Inu ยังสนับสนุนผู้สร้าง NFT และให้สมาชิกชุมชนสามารถซื้อและขายงานศิลปะที่ได้รับแรงบรรดาลใจจาก Shiba ได้บนเว็บไซต์
ทำไมต้องซื้อ SHIB?
SHIB เป็นเหรียญ 20 อันดับแรกอ้างอิงตามมูลค่ารวมตลาด โปรเจกต์เป็นที่สนใจของผู้ใช้คริปโตเคอร์เรนซีจำนวนมาก เนื่องจากความตลกและเข้าถึงได้ง่าย โดยปกติแล้วเหรียญมีมจะไม่มีประโยชน์การใช้งาน แต่ Shiba Inu นั้นไม่เหมือนใคร ในขณะที่โปรเจกต์กำลังขยายระบบนิเวศของ Shiba Inu, SHIB ดูมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างมาก
ปี 2023 มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นปีสำคัญของ Shiba Inu, มีกำหนดเปิดตัว Shibarium ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการส่งโทเคน SHIB และลดราคาการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน สามารถสร้าง dApps บน Shibarium ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการใช้งานโทเคน SHIB มากขึ้น
ในปัจจุบัน SHIB มีมูลค่าลดลงจากจุดสูงสุดประมาณ 90% แต่ถึงอย่างไร ปี 2023 ก็อาจเป็นปีแห่งการเติบโตอันยิ่งใหญ่ของ SHIB ได้ มันมีเป้าหมายที่จะกลับไปจุดสูงสุดเก่าและสร้างการใช้งานที่แท้จริงให้กับเหรียญมีมเพื่อชุมชนผู้รักเหรียญสุนัข
5. Polygon (MATIC)
Polygon ก่อนหน้านี้รู้จักในชื่อ MATIC เป็นโซลูชันการปรับขนาด Layer 2 ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการปรับขนาดของ Ethereum โดย Polygon ช่วยให้ธุรกิจและนักพัฒนาสามารถสร้าง dApps ขั้นสูงกว่าบนบล็อกเชน Ethereum ด้วยการใช้ประโยชน์จากการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว, เพิ่มความปลอดภัย และเวลาดำเนินการที่รวดเร็ว อาจทำให้มันเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ได้
ด้วยการใช้นวัตกรรมอัลกอริธึม Proof-of-stake (POS) Consensus เครือข่าย Polygon สามารถสร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือให้กับเครือข่าย Ethereum ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ นวัตกรรมนี้เพิ่มความสะดวกให้กับนักพัฒนา dApp และช่วยให้คริปโตเติบโตได้อย่างกว้างขวาง เครือข่าย Polygon สามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ที่ใช้แอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มให้ดีขึ้นได้
ทำไมต้องซื้อ MATIC?
Polygon เป็นโซลูชันปรับขนาด Layer 2 ขนาดใหญ่ ที่สามารถช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างบริการดิจิทัลคุณภาพสูง และผลักดันการเติบโตของคริปโตไประดับเศรษฐกิจโลกได้ ในขณะที่บล็อกเชนโตขึ้น Polygon ก็ดูเหมือนจะเป็นเครือข่ายที่ถูกใช้งานมากขึ้น โทเคน MATIC ก็จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เช่นกัน
MATIC ถูกใช้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรมบน Polygon และเพื่อความปลอดภัยของเครือข่ายโดยให้รางวัลกับผู้ตรวจสอบความถูกต้อง ด้วยเหตุผลนี้ ใครก็ตามที่ใช้เครือข่าย Polygon จะต้องซื้อและถือ MATIC ซึ่งส่งผลให้มันมีการเติบโตอย่างมาก
ผู้ใช้ถูกดึงดูดมายังโลกบล็อกเชนมากขึ้น MATIC จะได้ประโยชน์จากการมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ผลลัพธ์ นักลงทุนหลาย ๆ คนมองในด้านบวกและคาดการณ์ว่ามันจะเติบโตอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป ในช่วงปี 2023 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า MATIC อาจจะกลับไปยังจุดสูงสุดเดิมได้ที่ $2 ก่อนจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ในช่วงตลาดกระทิงรอบต่อไป
โอกาสการเติบโตอย่างมากในปี 2023
คริปโตเคอร์เรนซีทั้งห้าตัวนี้มีโอกาสที่จะเติบโตอย่างมากในปีที่กำลังจะถึง Polygon, XRP, และ Decentraland เป็นโปรเจกต์ที่สร้างขึ้นเสร็จแล้วและมีบริการที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้ บล็อกเชน และ Shiba Inu ก็ดูเหมือนจะขยายระบบนิเวศให้ชุมชนต่อไปอีก
อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์ที่ดูมีอนาคตสดใสที่สุดดูจะเป็น Metacade แพลตฟอร์ม GameFi มาใหม่ที่มีฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายให้กับชุมชนขนาดใหญ่ มันดูจะมีราคาสูงขึ้นในช่วง Presale โอกาสการลงทุนช่วงเริ่มต้นเหมือนกับ Metacade เช่นนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นั่นทำให้โทเคน MCADE เป็นโอกาสการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023
คุณสามารถซื้อ MANA, XRP, SHIB, และ MATIC ที่ eToro ที่นี่
คุณสามารถเข้าร่วม Pre-sale ของ Metacade ที่นี่
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้