<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ไม่ไหวอย่าฝืน ! JTS ประกาศยุติทำธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin ชั่วคราว เหตุต้นทุนไฟฟ้าพุ่ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา สื่อข่าวกรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 ของบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ JTS มียอดขาดทุนสุทธิจำนวน 105.65 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากการที่ค่าไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูง จนทำให้ต้นทุนเหมืองขุด Bitcoin เพิ่มสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นบริษัท JTS จึงกำลังพิจารณาย้ายฐานขุด Bitcoin ไปต่างประเทศ

บริษัท JTS แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลการดำเนินงานปี 2565 มียอดขาดทุนสุทธิจำนวน 105.65 ล้านบาท โดยเทียบกับปี 2564 ที่มีผลกำไรสุทธิประมาณ 221.04 ล้านบาท

บริษัท JTS มีรายได้รวมเมื่อปี 2565 อยู่ที่ 2,303.73 ล้านบาท โดยได้รับรายได้เพิ่มขึ้น 425.86 ล้านบาท หรือประมาณ 22.68% เมื่อเทียบกับปี 2564 ทว่าต่อมาในไตรมาส 4 ปี 2565 บริษัทและบริษัทย่อยกลับมียอดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 241.03 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินขาดทุนที่เพิ่มขึ้น 311.72 ล้านบาท หรือคิดเป็น 440.97% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ในปี 2565 บริษัทมีต้นทุนขายและบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 2,357.22 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมามากถึง 793.10 ล้านบาท หรือ 50.71% เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยรายละเอียดค่าใช้จ่ายประกอบด้วย

  • ต้นทุนขายและบริการ จำนวน 1,517.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.68 ล้านบาท คิดเป็น 8.95% เนื่องจากต้นทุนขายและบริการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม จำนวน 85.85 ล้านบาท ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 34.77 ล้านบาท และธุรกิจจัดหาออกแบบและวางระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 4.06 ล้านบาท
  • ต้นทุนเหมืองขุด Bitcoin จำนวน 632.88 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขุด Bitcoin จำนวน 271.26 ล้านบาท คิดเป็น 42.86% และขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากการด้อยค่าของอาคารและอุปกรณ์ และเงินจ่ายล่วงหน้าค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin จำนวน 361.62 ล้านบาท คิดเป็น 57.14%

ทั้งนี้ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขุด Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเครื่องขุด Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นจาก 325 เครื่องเป็น 2,641 เครื่อง เนื่องจากราคาเหรียญ Bitcoin มีมูลค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย Bitcoin มีราคาลดลงจากมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อ 1 BTC (USD 46,306.45) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จนเหลือราคาเพียง 5.69 แสนบาทต่อ 1 BTC (USD 16,547.50) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ดังนั้น ทางบริษัทฯ จึงต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินการธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 36 เรื่องการด้อยค่าของสินทรัพย์

สำหรับเป้าหมายและแผนธุรกิจในปี 2566 นั้น ผลกระทบและการแพร่ระบาดของ Covid-19 ได้ลดลง ดังนั้นทางบริษัทจึงเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะมีการขยายตัวและมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นในธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจจัดหา ออกแบบและวางระบบคอมพิวเตอร์ โดยเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิติบุคคลขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider)

ขณะเดียวกัน บริษัท JTS จะให้ความสำคัญกับธุรกิจทางด้านพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดตามเทรนด์รักษ์โลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเป็นทั้งตัวแทนจำหน่ายและผู้ให้บริการแบบครบวงจรสำหรับโซลาร์เซลล์

บริษัท JTS ยังคงติดตามสภาวการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin อย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินการหยุดดำเนินธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin เป็นการชั่วคราวตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 และพิจารณาทางเลือกในการย้ายฐานการขุด Bitcoin ไปยังต่างประเทศที่มีศักยภาพ

ที่มา: bangkokbiznews