<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Tether ออกมาแก้ข่าวที่ถูกกล่าวหาว่า “ใช้สินทรัพย์ของจีนเป็นเงินทุนสำรองสำหรับเหรียญ USDT”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัท Tether ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดได้ออกมาแก้ข่าวที่เกี่ยวกับการใช้สินทรัพย์ของจีนในเงินทุนสำรองของเหรียญ USDT

บริษัทได้ออกมาตอบโต้ข่าวที่ถูกเผยแพร่โดยสื่อกระแสหลักรวมถึงสื่อ Bloomberg โดยได้ออกมาพยายามชี้แจงจุดยืนในเรื่องนี้

ข่าวต่าง ๆ ได้อ้างถึงเอกสารที่ออกโดยอัยการสูงสุดของนิวยอร์ก โดยได้บอกว่ามีการหนุนเหรียญ USDT ด้วยสินทรัพย์จากบริษัทชื่อดังของจีน ซึ่งรวมถึง Industrial and Commercial Bank of China, China Construction Bank และ Agricultural Bank of China

โดยบริษัท Tether ได้ออกมาชี้แจงเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของบริษัทและเหตุผลต่าง ๆ ของการใช้สินทรัพย์สำรองของบริษัท

บริษัท Tether ได้ออกมาชี้แจงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับรายงานล่าสุด

เพื่อตอบสนองรายงานเกี่ยวกับการรวมหลักทรัพย์ของจีนไว้ในกองทุนสำรอง นาย Paolo Ardoino CTO ของบริษัท Tethere ได้ออกมาทวีตเพื่อบอกว่าหลายคนเข้าใจบริษัทผิด

ทวีต / ทวิตเตอร์ (twitter.com)

เขากล่าวถึงข้อกล่าวหาเรื่องการไม่มีบัญชีธนาคาร โดยระบุว่าเอกสารดังกล่าวให้หลักฐานที่ไม่ตรงกับความจริง

เกี่ยวกับหลักทรัพย์ของจีน นาย Ardoino กล่าวว่าหลักทรัพย์ดังกล่าวมาจากหนี้ของบริษัท Evergrande ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่กำลังมีปัญหา

นอกจากนี้ บริษัท Tether ยังได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าว โดยแนะนำว่าสื่ออย่าง Bloomberg และ CoinDesk ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะนำเสนอ

Tether บนทวิตเตอร์: “Everything You Need To Know About What We Shared With NYAG Read more https://t.co/0O3P1tbtYq https://t.co/pegeX2uNBN” / ทวิตเตอร์ (twitter.com)

บริษัทยังชี้แจงว่าข้อมูลที่สื่อได้รับไม่ได้เป็นข้อมูลปัจจุบันของบริษัท Tether 

โดยได้บอกว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีอายุมากกว่า 2 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัท Tether ในปัจจุบัน

ข้อกล่าวหามาจากไหน

ข้อกล่าวหาที่บอกว่าบริษัท Tether มีหลักทรัพย์ของจีนนั้น มาจากการสืบสวนที่ดำเนินการโดยLetitia James อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2019

ในเวลานั้น สำนักงานของ James ได้กำลังตรวจสอบว่าบริษัท BitFinex ได้ปกปิดการขาดทุนจำนวน 850 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหรือไม่

ในการสูญเสียนั้น มีเงินประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ ที่เชื่อมโยงกับเงินทุนสำรองของบริษัท Tether ซึ่ง James เรียกมันว่า “Slush fund” ของบริษัท BitFinex

สุดท้ายแล้ว คดีนี้สิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 และต่อมาบริษัท BitFinex และบริษัท Tether ถูกห้ามไม่ให้ดำเนินธุรกิจในรัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขข้อตกลง

Source: Bitcoinist