<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ข้อมูลเผยสมาชิก ‘Forbes 30 Under 30’ หลายรายถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง รวมมูลค่ากว่า 18,500 ล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลายคนคงพอได้ยินกันมาบ้างว่า Forbes คือ นิตยสารจัดอันดับรายชื่อบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ทั้งนี้หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือรายชื่อ “30 Under 30” ซึ่งเป็นส่วนที่รวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างกระแสในด้านต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดาวรุ่งเหล่านี้บางคนกลับกลายเป็นดาวร่วง เนื่องจากพวกเขาถูกเปิดโปงในข้อหาฉ้อโกงและอาชญากรรมอื่น ๆ โดยหนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ Charlie Javice ผู้ก่อตั้ง Frank ธุรกิจสตาร์ทอัพที่ช่วยเหลือนักศึกษาด้วยความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งมีลูกค้ามากกว่า 5 ล้านราย และวิทยาลัยกว่า 6,000 แห่งบนแพลตฟอร์ม อีกทั้ง JPMorgan Chase ยังซื้อกิจการไปด้วยมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์ในปี 2021

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Javice กลับถูกตั้งข้อหา “เพิ่มจำนวนลูกค้าของบริษัทอย่างไม่ถูกต้องและเกินจริง” เพื่อให้ JPMorgan Chase ซื้อกิจการ ทั้งนี้ตามคดีความระบุว่า Frank มีลูกค้าจริงเพียง 300,000 รายเท่านั้น แต่ทำการปลอมแปลงข้อมูลขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีฐานลูกค้าขนาดใหญ่

นอกจากนี้ Javice ยังถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงผ่านธนาคารและการโอนเงินผ่านธนาคาร โดยแต่ละกระทงมีโทษจำคุกสูงสุด 30 ปี แต่ทว่า Javice กลับปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

Javice ไม่ได้เป็นบุคคลผู้มีรายชื่อใน Forbes 30 Under 30 คนแรกที่ต้องเผชิญกับโทษจำคุก เพราะในความเป็นจริง เธอคือหนึ่งในผู้ก่อตั้งธุรกิจรุ่นใหม่จำนวนมากที่ถูกกล่าวหาหรือถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกงและอาชญากรรมอื่น ๆ ทั้งนี้กรณีที่มีชื่อเสียงที่สุด เช่น

  • Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX เว็บเทรดคริปโตที่ล่มสลาย ถูกจับกุมท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการฟอกเงิน ติดสินบน และการบริจาคที่ผิดกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้เขาอยู่ในรายชื่อ Forbes 30 Under 30 มาตั้งแต่ปี 2021 และยังขึ้นปก Forbes 400 ฉบับในปีเดียวกันนั้นด้วย แต่ปัจจุบันเขาถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านระหว่างรอการพิจารณาคดีในข้อหาเรียกเก็บเงินลูกค้า FTX เป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งบางส่วนนำไปใช้ในชีวิตส่วนตัวอย่างฟุ่มเฟือย จนเขาต้องเผชิญกับโทษจำคุกนานกว่า 100 ปี
  • Caroline Ellison อดีต CEO ของ Alameda Research ที่ก่อตั้งโดย Sam Bankman-Fried ได้สารภาพผิดในข้อกล่าวหาทางอาญา 7 กระทงเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยมีโทษสูงสุด 110 ปี แต่เนื่องจากเธอยอมให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี เธอได้รับการผ่อนปรนโทษอยู่บ้าง
  • Martin Shkreli หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Pharma Bro” ผู้ขึ้นราคายาและหลอกลวงนักลงทุน โดย Shkreli ได้รับการเสนอให้อยู่ในรายชื่อ Forbes 30 Under 30 เมื่อปี 2012 และถูกตัดสินจำคุก 7 ปีเมื่อปี 2018 นอกจากนี้ เขายังถูกสั่งห้ามทำงานในอุตสาหกรรมยาตลอดชีวิต
  • Elizabeth Holmes ผู้ก่อตั้ง Theranos บริษัทตรวจเลือดที่ได้ชื่อว่า “หลอกลวง” โดย Holmes ถูกตัดสินจำคุกมากกว่า 11 ปีเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากมีความผิดฐานฉ้อโกงนักลงทุน โดยชื่อของเธอเคยอยู่ในพาดหัวข่าวของ Forbes Under 30 Summit เมื่อปี 2015
  • Trevor Milton มีชื่ออยู่ในรายชื่อ 12 คนที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริษัทผลิตรถบรรทุกที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ก่อนที่จะถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกง

จากกรณีที่เศรษฐีในรายชื่อ Forbes 30 Under 30 หลายคนถูกจับกุมเพราะมีส่วนร่วมในคดีการฉ้อโกงและอาชญากรรมอื่น ๆ นิตยสาร Forbes ก็ต้องเผชิญกับคำวิจารณ์และคำเยาะเย้ยอย่างหนัก เนื่องจากผู้คนมองว่า Forbes ขาดความน่าเชื่อถือ รวมทั้งขาดความรอบคอบในการคัดเลือกและยกย่องผู้ประกอบการรุ่นใหม่

ในฐานะผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี Chris Bakke ได้ออกมาโพสต์ทวีตเมื่อวันอังคารว่า “The Forbes 30 Under 30 สามารถระดมทุนจากเศรษฐีรวมกันได้กว่า 5.3 พันล้านดอลลาร์ แต่นอกจากนี้ Forbes 30 Under 30 ยังถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวงรวมมูลค่ากว่า 18.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งทีเดียว”

ที่มา: unilad, medium