สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Worldcoin จะขยายการดำเนินงานเพื่อเปิดให้ผู้ใช้ในทั่วโลกสามารถลงทะเบียนได้มากขึ้น และยังมีเป้าหมายที่จะอนุญาตให้องค์กรอื่น ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนม่านตาของบริษัทได้ ตามคำกล่าวของผู้จัดการอาวุโสของบริษัท
Sam Altman CEO ของ OpenAI ได้เปิดตัวโปรเจกต์ Worldcoin เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกำหนดให้ผู้ใช้สแกนม่านตาเพื่อแลกกับ ID ดิจิทัล และในบางประเทศจะได้รับเหรียญ crypto ฟรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้าง “ข้อมูลระบุตัวตนและเครือข่ายทางการเงิน”
ในเว็บไซต์ลงทะเบียนระบุว่า ผู้สมัครจะได้รับการสแกนใบหน้าผ่าน “orb” ลูกโลกทรงกลมแวววาว และไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลไบโอเมตริกนี้จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด Worldcoin กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมยืนยันตัวตนกว่า 2.2 ล้านคนแล้ว และส่วนใหญ่อยู่ในช่วงทดลองสองปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหน่วยงานเฝ้าระวังข้อมูลในอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีกล่าวว่า พวกเขากำลังตรวจสอบโครงการนี้อย่างละเอียด
“เราอยู่ในภารกิจการสร้างชุมชนทางการเงินและการระบุตัวตนที่ใหญ่ที่สุดที่เราสามารถทำได้” Ricardo Macieira ผู้จัดการทั่วไปประจำยุโรปจากบริษัท Tools For Humanity ในซานฟรานซิสโกและเบอร์ลินซึ่งอยู่เบื้องหลังโครงการนี้กล่าว
Worldcoin สามารถระดมทุนได้กว่า 115 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนร่วมทุน นำโดยBlockchain Capital, a16z crypto, Bain Capital Crypto และ Distributed Global ในรอบการระดมทุนในเดือนพฤษภาคม
Macieira กล่าวว่า Worldcoin จะยังคงดำเนินการต่อไปในยุโรป ละตินอเมริกา แอฟริกา และ “ทุกส่วนของโลกที่จะยอมรับเรา”
เว็บไซต์ของ Worldcoin กล่าวถึง กรณีการใช้งานที่เป็นไปได้ต่าง ๆ รวมถึงการแยกแยะมนุษย์จากปัญญาประดิษฐ์ การเปิดใช้งาน “กระบวนการประชาธิปไตยทั่วโลก” และการแสดง “แนวทางที่เป็นไปได้” เพื่อนำสู่รายได้ขั้นต่ำสากล แม้ว่าบริษัทจะไม่รับประกันผลลัพธ์เหล่านี้ก็ตาม
ผู้ได้รับการสัมภาษณ์โดย Reuters ณ ที่ลงทะเบียนในอังกฤษ อินเดีย และญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกล่าวว่า จุดประสงค์ของพวกเขาในการเข้าร่วมโปรเจกต์นี้ก็เพื่อรับโทเค็น Worldcoin ฟรี 25 เหรียญ
บริษัทต่าง ๆ สามารถจ่ายเงินให้ Worldcoin เพื่อแลกกับการใช้งานระบบระบุตัวตนดิจิทัลได้ เช่น หากร้านกาแฟต้องการให้กาแฟฟรี 1 แก้วแก่ทุกคน เทคโนโลยีของ Worldcoin สามารถนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนจะไม่เรียกร้องกาแฟมากกว่า 1 แก้วโดยที่ร้านค้าไม่จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล Macieira กล่าว
ในอนาคต เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง orb สแกนม่านตาจะเป็นแหล่งที่เปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้ Macieira กล่าวเสริม
ที่มา: Yahoofinance