<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อุตสาหกรรมคริปโตถูกแฮ็กเกอร์โจมตีลดลงกว่า 50% ในปี 2023

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปริมาณการแฮ็กที่ลดลงเป็นผลมาจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนามากขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโต

การวิจัยจาก TRM Labs เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมคริปโตถูกโจมตีโดยแฮ็กเกอร์ลดลงมากกว่า 50% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

แม้ว่าจะมีการโจมตีถึง 160 ครั้ง แต่มูลค่าความเสียหายก็ลดลงเหลือ 1.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าปี 2022 ที่เสียหายเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์

มองลึกลงไป

นับตั้งแต่อุตสาหกรรมคริปโตก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2009 แฮ็กเกอร์ได้สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมหลายล้านดอลลาร์ต่อปี

ในปี 2020 มีความเสียหายประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ปี 2021 มีการโจมตีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้มีความสูญเสียสูงขึ้น 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ถือเป็นความเสียหายที่สูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ข้อมูลจาก Chainalysis พบว่า ในปี 2022 แฮ็กเกอร์ได้สร้างความเสียหายประมาณ 3.8 พันล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมคริปโต

การวิจัยของ TRM Labs ยังเผยว่าเหตุการณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ประมาณ 60% มาจากการโจมตี Infrastrcuture โดยเป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการขโมย Private key หรือ Seed phrases โดยแฮ็กเกอร์ได้แฮ็กเข้าไปใน Infrastructure ของระบบคริปโตเช่น เซิร์ฟเวอร์ เครือข่าย หรือซอฟต์แวร์ เพื่อขโมยสินทรัพย์หรือขายสินทรัพย์

เหตุการณ์การโจมตีเหล่านี้แต่ละครั้งมีความเสียหายเฉลี่ยประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ซึ่งมากกว่าการโจมตีโปรโตคอลและการโจมตีผ่านช่องโหว่ของโค้ดอย่างมาก 

การโจมตี 10 อันดับแรกมีมูลค่ารวมกันเกือบ 70% ของความเสียหายทั้งหมด โดยหลาย ๆ เหตุการณ์เหล่านี้มีความเสียหายเกิน 100 ล้านดอลลาร์ โดยมีการโจมตี Euler Finance ในเดือนมีนาคม, Multichain ในเดือนกรกฎาคม, Mixin Network ในเดือนกันยายน และ Poloniex ในเดือนพฤศจิกายน

การพัฒนาความปลอดภัยทำให้ความเสียหายลดลง

การวิจัยระบุว่าปริมาณความเสียหายที่ลดลงเกิดจากการพัฒนาหลัก ๆ 3 อย่าง อย่างแรกก็คือ มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับปรับปรุงในอุตสาหกรรมคริปโต รวมถึงการตรวจสอบธุรกรรมแบบ Real-Time และระบบตรวจจับความผิดปกติที่เกิดขึ้น

ถัดมาก็คือบังคับใช้กฎหมายที่เพิ่มขึ้น ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลกร่วมมือกันมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การรับมือกับการโจมตีที่รวดเร็วและสามารถกู้คืนสินทรัพย์ได้มากขึ้น

สุดท้ายก็คือการร่วมมือกันในอุตสาหกรรมที่มากขึ้น โดยมีทั้งกระดานเทรด ผู้ให้บริการกระเป๋าคริปโต และเครือข่าย Blockchain ซึ่งช่วยกันแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย และต้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างครบวงจร

โดยสรุปแล้ว งานวิจัยได้แนะนำให้อุตสาหกรรมและกฎหมายต่าง ๆ ปรับตัวเรื่อย ๆ เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นในปี 2024 เนื่องจากการโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ อาจจะทำให้สถานการณ์การแฮ็กที่ดีขึ้นในตอนนี้แย่ลงในอนาคต
Source: CryptoPotato