Justin Sun ผู้ก่อตั้ง Tron blockchain ได้ออกมาโต้แย้งกับองค์การสหประชาชาติ (UN) หลังมีรายงานออกมาว่าทางหน่วงงานได้กังวลถึงบทบาทของ USDT ของ Tether ที่ได้รับความนิยมจากการถูกใช้ในการฟอกเงินและการโจรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งตัว Sun ได้ออกมาเน้นย้ำผ่านโพสต์บน X (Twitter) เมื่อวันที่ 19 มกราคมว่า ทาง Tron ได้มีความพยายามและจะทุ่มเทเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในทางที่ผิด ก่อนที่จะอ้างว่ารายงานของ UN เองก็มีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกันหลายประการ
โดยทาง Sun ได้เปิดเผยว่าทาง Tron ได้มีการตรวจสอง เหรียญ USDT ที่หมุนเวียนอยู่ในโปรโตคอล TRC-20 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชเพื่อที่จะสามารถตรวจสอบได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าทาง Tron จะมีความพยายามเป็นอย่างมาก แต่ในฐานะแพลตฟอร์มกระจายอำนาจนั้น มันยังคงมีจำกัดในการควบคุมการกระทำของบุคคลที่สามได้โดยตรงอยู่
ในขณะเดียวกัน Tether ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง USDT ก็ได้ออกมาตอบสนองต่อรายงานของ UN เช่นกัน โดยได้เน้นย้ำถึงความพยายามที่ทางบริษัทต้องการให้โทเค็นมีความโปร่งใส ซึ่งก็ได้โต้แย้งกับทาง UN ว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่ตัวเหรียญจะถูกใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ Tether ยังได้อ้างถึงการกระทำในอดีต ที่ได้ช่วยเหลือกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาในการอายัดเงินมูลค่ากว่า 225 ล้านดอลลาร์ ที่พบว่าเงินดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่าทางบริษัทได้มีความพยายามในการต่อต้านการใช้เหรียญในทางที่ผิด
อย่างไรก็ตามJustin Sun ยังได้เน้นย้ำเพิ่มเติมว่า พวกเขาได้ให้ความสำคัญกับการร่วมมือในระดับโลกเป็นอย่างมาก และแนะนำให้ทาง UN ร่วมมือกับพวกเขาในการขยายความเข้าใจและการเข้าถึงที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนให้กับผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้
ที่มา: Cryptopolitan