เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ของ Stablecoins และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิก
โดยในรายงานดังกล่าวทาง IMF เชื่อว่า เงินดิจิทัลไม่ว่าจากภาครัฐหรือเอกชน จะสามารถช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในประเทศที่ห่างไกลแถวมหาสมุทรแปซิฟิกได้ด้วยการเพิ่มการเข้าถึงทางการเงิน และสร้างคุณภาพสำหรับการบริการทางการเงินให้ดียิ่งขึ้น
“การเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างจำกัด และไม่เท่าเทียมกันนั้น ก่อให้เกิดความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ประเทศเหล่านี้ยังขึ้นอยู่กับกระแสการโอนเงินเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นสัดส่วนจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนธนาคารที่ลดน้อยลง”
สิ่งที่น่าสนใจคือ นอกจากที่รายงานดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ CBDC ซึ่งเป็นสิ่งที่ IMF ให้การสนับสนุนเป็นอย่างมากแล้ว IMF ยังได้มีการพูดถึงเหรียญ stablecoin ที่ได้รับการสนับสนุนจากสกุลเงินต่างประเทศอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม IMF กลับไม่สนับสนุนให้ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกขนาดเล็ก (PICs) ออกเหรียญ stablecoin ของตนเอง เนื่องจากประเทศเหล่านี้ขาดความสามารถในการกำกับดูแล ในขณะที่มีการพูดถึงเหรียญ stablecoin ในรายงานเพียงรายการเดียวคือ Tether ( USDT)
โดยรวมแล้ว รายงานระบุว่า ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มประเทศ PIC นั้นคือการที่มีสกุลเงินของประเทศอยู่แล้ว และให้ธนาคารกลางจะออกแต่มอบหมายการดำเนินการสร้าง CBDC แบบสองชั้น (two-tier CBDC) ให้กับตัวกลางที่เป็นเอกชน
“เหรียญ stablecoin ที่ใช้สกุลเงินต่างประเทศอาจเป็นทางเลือกที่สมจริงสำหรับประเทศที่ไม่มีสกุลเงินของตนเอง แม้ว่าจะมีกฎระเบียบและการกำกับดูแลที่เข้มงวดเท่านั้น”
ที่มา: Cointelegraph