นักกฎหมายด้านคริปโตเคอเรนซี ยินดีกับคำตัดสินล่าสุดของผู้พิพากษ์สหรัฐฯ ที่ยกฟ้องข้อกล่าวหาต่อ Coinbase Wallet โดยมองว่านี่ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับกระเป๋าเงินแบบดูแลตัวเอง (self-custody wallet) และแอปพลิเคชันทางการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance : DeFi)
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้พิพากษา Katherine Failla ได้ปฏิเสธคำร้องของบริษัท Coinbase ที่ต้องการให้ยกคำฟ้องคดีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ฯ ฟ้องร้องในข้อกล่าวหาว่า Coinbase ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ และข้อเสนอการ staking สกุลเงินดิจิทัลของ Coinbase ก็ถือเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยพิพากษามีมติให้ทาง SEC สามารถฟ้องร้องในข้อกล่าวหานี้ต่อไปได้เพราะมีน้ำหนักมากเพียงพอ
ทั้งนี้ผู้พิพากษายังตัดสินเพิ่มเติมด้วยว่าทาง SEC ไม่สามารถฟ้องร้อง Coinbase ได้ในข้อหาการทำธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านทาง Coinbase Wallet เนื่องจากแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบดูแลตัวเองนี้ อนุญาตผู้ใช้สามารถควบคุมสินทรัพย์ของตนเองได้ทั้งหมด
จากคำตัดสินนี้ก็มีชาวคริปโตหลายรายเข้ามาร่วมแสดงความยินดีให้กับชัยชนะของ Coinbase เช่น Zach Rosenberg ที่ปรึกษาของ Ethena Labs ที่ออกมากล่าวบนทวีตว่า นี่เป็นชัยชนะครั้งสำคัญของทั้งวงการคริปโต ไม่ใช่แค่ Coinbase เพราะการที่แอปแสดงราคาคริปโตให้ผู้ใช้งานได้รับทราบเพื่อความสะดวกนั้นไม่ได้หมายความว่าแอปมีเจตนาที่จะชักจูงหรือทำตัวเป็นนายหน้าขายสินทรัพย์ ขณะที่ Jake Chervinsky ฝ่ายกฏหมายของ Variant บริษัทลงทุนคริปโตได้แสดงความเห็นว่า คำตัดสินนี้อาจดูเหมือนว่า Coinbase ได้รับชัยชนะ แต่ในภาพรวมของคดีความทั้งหมด SEC ยังคงความได้เปรียบอยู่
อย่างไรก็ตามคดีความของ Coinbase กับ SEC นั้นยังไม่สิ้นสุดลง ซึ่งต่างฝ่ายต้องกลับไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมาสู้ในศึกต่อไป โดยปัจจุบัน SEC ยังได้กล่าวหา Coinbase อีกว่าได้ทำการลิสต์เหรียญจำนวน 13 โทเค็น ที่หน่วยงานมองว่าเป็นหลักทรัพย์ ที่ถูกจัดการโดยศูนย์ซื้อขายที่ไม่ได้รับใบอนุญาตจากทางการ โดยนับจากนี้อีก 4 เดือน จะครบรอบ 1 ปีพอดีนับตั้งแต่มีการฟ้องร้องเกิดขึ้นครั้งแรก
- ที่มา : Cointelegraph
- ภาพ : Cryptotimes