<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ JPMorgan ยืนยันจุดยืน ! ‘Bitcoin เป็นการหลอกลวงและไร้ประโยชน์ที่จะเป็นสกุลเงิน’

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Jamie Dimon ซีอีโอ ของ JPMorgan ชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการออกมาพูดจาเหน็บแนม Bitcoin ซ้ำยังคงมีเรื่องราวมาเล่าอีกครั้ง ในการสัมภาษณ์เชิงลึกกับ Bloomberg เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เขาย้ำจุดยืนเดิมว่า Bitcoin เป็น “การหลอกลวง”

“ถ้าคุณหมายถึงคริปโตอย่าง Bitcoin ผมเคยพูดเสมอว่ามันเป็นการหลอกลวง” Dimon กล่าวกับ Emily Chang จาก Bloomberg พร้อมเสริมว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะเป็นสกุลเงิน

นอกจากนั้นแล้วเขายังเรียก Bitcoin ว่า “แชร์ลูกโซ่แบบสาธารณะที่กระจายอำนาจ” แต่ยอมรับว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Smart Contract นั้นมีประโยชน์

“ถ้ามันเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ทำอะไรบางอย่างได้ เช่น Smart Contract ที่มีประโยชน์ ก็จะมี Smart Contract และบล็อกเชนที่ใช้งานได้ ในกรณีที่คริปโตเข้าถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนบางอย่าง มันอาจจะมีค่าบ้าง” Dimon กล่าว

คนที่สนใจคริปโตบนทวิตเตอร์ พักการดูนาฬิกานับถอยหลัง Bitcoin Halving เพื่อมาล้อเลียน CEO รายนี้

“เพื่อนคนนี้กำลังกดราคาเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อที่ดีกว่า” Wallstreetbets กล่าวบนทวิตเตอร์

“The Matrix ชอบส่งสัญญาณให้ซื้อ Bitcoin เพิ่ม” Bitcoin Munger กล่าว “นี่เป็นหนึ่งในสัญญาณเหล่านั้น”

แม้ว่า Dimon จะมองเห็นคุณค่าในสัญญา Smart Contract และบล็อกเชน แต่ผู้ที่วิจารณ์ Bitcoin มาอย่างยาวนานรายนี้ กล่าวว่า กรณีการใช้งานเดียวของสกุลเงินดิจิทัลนี้คือ “การค้าประเวณี การเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน และ การสนับสนุนการก่อการร้าย”

Dimon กล่าวว่า หาก “กรณีการใช้งานที่เลวร้าย” เหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้ หน่วยงานกำกับดูแลจะต้อง “ปิดมันลง” ซึ่งจะเป็นงานที่ยากมาก เพราะปัจจุบันมีโหนดของ Bitcoin มากกว่า 20,000 โหนดที่ยังคงทำงานอยู่

หลังจากพูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับหนึ่งตามมูลค่าตลาดมาหลายปี Dimon เคยสาบานว่าจะไม่พูดถึง Bitcoin อีกเลย ในการสัมภาษณ์กับ CNBC ที่ฟอรัมเศรษฐกิจโลกที่ดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมกราคม

“นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะพูดเรื่องนี้กับ CNBC ขอพระเจ้าเป็นพยาน” ไดมอน ประกาศ

การตำหนิบิตคอยน์อย่างต่อเนื่องของผู้บริหารรายนี้ ดูเหมือนจะขัดแย้งกับการลงทุนของบริษัทตัวเอง JPMorgan เป็น “ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วม” ในกองทุน ETF Bitcoin จาก BlackRock, Invesco/Galaxy Digital และ Fidelity ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ อนุมัติไปเมื่อต้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ในรายงานเดือนธันวาคม นักวิเคราะห์ของ JPMorgan แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของกองทุน ETF Bitcoin ที่มีต่อตลาด และกล่าวว่า Ethereum มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีกว่าบิตคอยน์ในปี 2024

ที่มา: Decrypt