<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

DE จับมือ ก.ล.ต. ล้างบางเว็บลงทุน-เว็บคริปโตเถื่อน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจับมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย เร่งตัดทางเงินโจรไซเบอร์แปลงเงินบาทเป็นคริปโตฯ เตรียมมาตรการกล่าวโทษแพลตฟอร์มคริปโตฯ เถื่อน – เว็บหลอกลงทุนเพิ่ม  เร่งส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาสั่งปิดเว็บ

เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา  นาง พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 3/2567 ว่า 

“ตามการรับแจ้งจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้หามาตรการกำกับดูแลการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีแบบบุคคลสู่บุคคล (Peer to Peer) เพราะเป็นแหล่งที่อาชญากรไซเบอร์ใช้แปลงเงินบาท เป็นคริปโตเคอร์เรนซีออกนอกประเทศ”

“ก.ล.ต. มีหน้าที่กำกับดูแลแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี ที่จดทะเบียนและได้ใบอนุญาตในประเทศไทย ดังนั้นโดยหลักการแล้ว แพลตฟอร์มที่มีการจัดกิจกรรม ชักชวนคนไทยไปใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นแพลตฟอร์มเถื่อน จึงต้องใช้วิธีการนี้ในการกล่าวโทษและปิดแพลตฟอร์มเถื่อนเหล่านั้น”

นอกจากนี้ เลขาฯ ก.ล.ต. ยังกล่าวด้วยว่า  ขณะนี้มีการลงโทษแพลตฟอร์มคริปโตฯเถื่อนแล้ว 2 แห่ง ซึ่งมีการให้อินฟลูเอเซอร์ชักชวนคนไทยไปใช้บริการ ซึ่งเข้าข่ายให้บริการในไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต

“การซื้อขายเงินสกุลคริปโตเคอร์เรนซี หรือสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ถ้าผ่านผู้ที่ได้รับใบอนุญาตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้การดูแลอยู่ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Dealer) รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตของสำนักงาน ก.ล.ต”

แพลตฟอร์มเถื่อน หมายถึง ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้ามาดำเนินการในประเทศไทยโดยไม่ได้ขออนุญาต

ปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาถึงผลกระทบและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปิดแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยได้ยกกรณีตัวอย่างจากในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งศาลได้ให้เวลา 3 เดือนก่อนปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มหรือเว็บคริปโตเถื่อน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกระบุว่า บัญชีม้า บัญชีสุดท้ายของมิจฉาชีพหรืออาชญากรไซเบอร์ กว่า 80% เป็นการโอนออกไป ยังแพลตฟอร์ม คริปโตเคอร์เรนซีเพื่อ เปลี่ยนเงินบาทเป็น คริปโต แบบ P2P บนแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ

Source: ประชาชาติธุรกิจ