YouTuber ชื่อดังอย่าง Scuba Jake ได้ออกมายืนยันว่าช่องของเขาซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 13 ล้านคนและมีการดู 1,750 ล้านครั้งนั้นได้ถูกแฮ็กซึ่งช่องของเขาถูกสร้างขึ้นมาในปี 2011 เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน โดยพบว่านักต้มตุ๋นคริปโตเข้ายึดช่องและพยายามหลอกลวงผู้ติดตามที่ไม่สงสัยในการแจก Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) แบบปลอม
การวิเคราะห์โดย Finbold ระบุไว้ว่านักต้มตุ๋นทำเงินได้ 1.01 BTC ซึ่งคิดเป็นเงินราว ๆ $21,000 จากการแจก crypto ปลอม โดยในการวิเคราะห์นั้นจะใช้ข้อมูลจาก QR code ที่นักต้มตุ๋นแชร์ให้ผู้ใช้สแกนก่อนส่ง cryptocurrency
ตามที่ Blockchain.com ได้ระบุ Bitcoin wallet ที่ถูกแชร์ออกมาได้บันทึกการทำธุรกรรมเอาไว้จำนวน 4 รายการนับตั้งแต่สร้างขึ้นมา โดย wallet นี้ได้รับเหรียญ Bitcoin ไปทั้งหมด 1.0107 BTC ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกันกับที่นักต้มตุ๋นถอนออกไป
เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนเงินที่สูญหายอาจสูงขึ้นไปอีกเนื่องจากนักต้มตุ๋นอาจเปลี่ยน wallet ระหว่างทำการไลฟ์สตรีมไปเป็น Ethereum wallet โดยที่การวิเคราะห์ระบุว่ายังไม่มีการทำธุรกรรมใด ๆ เกิดขึ้น
การต้มตุ่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์ฉ้อโกงอื่น ๆ บน YouTube โดยที่นักต้มตุ๋นมักใช้บทสัมภาษณ์เก่า ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวง crypto มาโพสต์ซ้ำเป็นสตรีมสดและโปรโมทการแจกของปลอม ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่านักต้มตุ๋นเลือกใช้ตัวเลือกในการไลฟ์สตรีมเพราะมันสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า
นักต้มตุ๋นหลอกลวงผู้ติดตาม Scuba Jake อย่างไร
ภายใต้การแฮ็กนักต้มตุ๋นได้เปลี่ยนชื่อช่องของ Scuba Jake เป็น ‘MicroStargey US’ เลียนแบบ MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับซอฟท์แวร์ AI และด้าน Data สำหรับวิเคราะห์ธุรกิจซึ่งเป็นมิตรกับ Crypto อย่างมาก
มากไปกว่านั้นนักต้มตุ๋นได้ทำการโฮสต์ไลฟ์สตรีมวิดิโอเก่าที่มีความเกี่ยวข้องกับอดีต CEO ของ MicroStrategy อย่าง Michael Saylor ในกรณีนี้ นักต้มตุ๋นหลอกล่อผู้ติดตามที่ไม่เอะใจให้ทำการส่งคริปโต โดยที่พวกเขาคิดว่าจะได้รับรางวัลจาก Michael หรือได้รับผลตอบแทนในจำนวนที่สูงกว่า
นักต้มตุ๋นมุ่งเป้าไปที่ช่องของ Jake อาจเป็นเพราะผู้ติดตามของช่องเขามีจำนวนที่เยอะมาก โดยหากลองมาพิจารณาว่านับตั้งแต่สร้างช่องในปี 2011 มียอดวิวสะสมในช่องของเขามากกว่า 1,700 ล้านครั้ง ช่องดังกล่าวได้รับการส่งกลับคืนสู่มือเจ้าของในขณะที่เขียนแล้ว โดย Jake ได้ยืนยันผ่านสตอรี่ Instagram ของเขาเมื่อวันที่ 10 กันยายน
โดยรวมแล้ว กรณีของนักต้มตุ๋นที่ใช้ประโยชน์จาก YouTube เพื่อหลอกลวงผู้อื่นก็ได้เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อบุคคลและองค์กรที่มีชื่อเสียง ตามที่ Finbold ได้เคยรายงานนักต้มตุ๋นยังได้มีการแฮ็กช่อง YouTube ของรัฐบาลเกาหลีใต้และแชร์วิดีโอเกี่ยวกับคริปโต อย่างไรก็ตามรัฐบาลสามารถกู้คืนบัญชีกลับมาได้แล้ว
YouTube กลายเป็นจุดสนใจของนักต้มตุ๋น
ก่อนหน้านี้พวกนักต้มตุ๋นคริปโตบน YouTube ได้พุ่งเป้าไปที่ CEO ของ Tesla อย่าง Elon Musk โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาได้เข้ายึดช่องต่าง ๆ เพื่อแอบอ้างเป็น Elon และให้สัญญาว่าจะแจกคริปโตปลอม
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Elon ถึงกับต้องออกมาบ่น YouTube เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าไม่ทำอะไรเลยเพื่อจัดการกับพวกต้มตุ๋นในทวีตที่โพสต์เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2022 Micheal เองก็ยังแสดงความคับข้องใจกับความล้มเหลวของ YouTube ผ่านการตอบกลับทวีตของ Elon
นอกจากนี้ การวิจัยโดย Kaspersky บริษัทซอฟต์แวร์ antivirus ยังได้เปิดเผยว่านอกเหนือจากการขโมยช่อง YouTube แล้ว นักต้มตุ๋นกำลังค่อย ๆ คลืบคลานเข้ามาป่วนในส่วนของคอมเมนท์ใต้วิดีโอเพื่อโปรโมทบริการ crypto ปลอมในขณะที่พวกเขาเสนอขายเหรียญคริปโตบางตัวในราคาที่ต่ำกว่าตลาด
ที่มา : Finbold