เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนของบล็อกอยู่บนมาตรฐาน OFAC หรือสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศ โดยบล็อกมากกว่า 50% ที่สร้างขึ้นในช่วง 1 วันที่ผ่านมา ได้อยู่ภายใต้มาตร OFAC
โดยบล็อกที่อยู่บนมาตรฐานของ OFAC จะมีรีเลย์ที่มีการเซนเซอร์การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Tornado Cash
มาตรฐานของ OFAC เป็นเครื่องมือรีเลย์ที่เป็น Open-source และทำงานอยู่บน Ethereum Virtual Machine
ในเดือนสิงหาคม 2022 ทาง OFAC หรือสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศได้สั่งห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันใช้ Tornado Cash และหลังจากการอัพเกรด The Merge ของ Ethereum และการเกิดขึ้นของ MEV Boost ก็ทำให้เกิดบล็อกที่ทำงานตามาตรของ OFAC มากขึ้น
Maximal Extractable Value หรือ MEV เป็นการที่ผู้ใช้ยอมจ่ายค่าก๊าซเพิ่ม เพื่อทำให้ธุรกรรมเร็วขึ้น ซึ่งรายได้ตรงนี้เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจริงจากการใช้งานจริง ที่ให้ประโยชน์กับ Miner นักขุดและ Staker ผู้นำเหรียญเข้ามาฝากในบล็อกเชนโดยตรง โดยทีมวิจัยและพัฒนาที่ใช้ชื่อว่า Flashbots ได้ทำการพัฒนา MEV Boost ขึ้นมาเพื่อให้สามารถจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ MEV ได้
ปัจจุบันมีรีเลย์จำนวนมากที่สร้างและดูแลโดย Flashbots และรีเลย์ของ Flashbots ส่วนใหญ่ก็มีการเซนเซอร์ธุรกรรมที่ถูกคว่ำบาตร
ในตอนนี้รีเลย์อื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังไม่ได้แบนธุรกรรมที่ถูกคว่ำบาตรตามมาตรฐาน OFAC
รีเลย์อื่น ๆ เช่น Blocknative กำลังเริ่มที่ทำตามมาตรฐาน OFAC
จุดจบของ Ethereum
นาย Martin Köppelmann CEO ของบริษัท Gnosis Ltd ซึ่งเป็นบริษัท DeFi ที่พัฒนาอยู่บน Ethreum ได้ออกมาบอกว่า “นี่เป็นก้าวที่น่าเศร้า ที่เกิดการเซนเซอร์บน Ethereum”
นาย Köppelmann ได้บอกว่า เครื่องมือตรวจสอบความถูกต้องควรเชื่อมต่อกับรีเลย์ที่ไม่มีการเซนเซอร์ เช่น รีเลย์ของ bloXroute
ณ ตอนนี้ดูเหมือนว่าธุรกรรมบน Ethereum ส่วนใหญ่จะไม่มีการหลบเลี่ยงการเซนเซอร์การทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับ Tornado Cash
Source : ambcrypto