หลังจากที่ Ripple Labs ได้รับชัยชนะในคดีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เมื่อเดือนกรกฎาคม จะทำให้ทัศนคติทั่วไปของอุตสาหกรรมดียิ่งขึ้น แม้ว่า SEC จะอุทธรณ์ก็ตาม
ด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มหันมาสนใจคริปโตเคอร์เรนซีอีกครั้ง อย่างเช่น Paypal ที่ประกาศเปิดตัว PYUSD ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ของตัวเองเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องดีเสมอไป เพราะการเข้ามาของ Paypal นั้น ได้เกิดการตั้งคำถามจากชาวคริปโตเกิดขึ้น เพราะได้มีคนไปอ่านโค้ดของ PYUSD แล้วได้พบปัญหา ช่วงโหว่ต่างๆ ที่ขัดแย้งกับระบบการกระจายอำนาจซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญของคริปโตเคอร์เรนซี
ซึ่งหากว่าไม่ได้รับการแก้ไข อาจจะทำให้สถาบันอื่นๆ มองว่าการเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ไม่จำเป็นต้องมีการกระจายอำนาจก็ได้
โดยข้อมูลในโค้ดของ PYUSD ได้พบช่องโหว่ ใน smart contracts ที่สามารถหยุดการทำธุรกรรม หรือแม้กระทั่งล้างยอดคงเหลือในบัญชีได้เลย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้คนไม่เชื่อใจในระบบและเหรียญอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว เราไม่สามารถที่จะเพิกเฉยต่อฟังก์ชัน blacklist ได้ แม้ว่ามันจะถูกสร้างมาเพื่อต่อกรกับแฮกเกอร์ หรืออาชญากรก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าการเข้ามาของ Paypal นั้น บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญของสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจจะทำให้สถาบันรายใหญ่รายอื่น ๆ หันเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้มากยิ่งขึ้น
แม้ว่าในระยะสั้นนั้น จะทำให้ตลาดเติบโตได้มากยิ่งขึ้น แต่ในระยะยาวนั้น ยังมีความจำเป็นที่ต้องตั้งคำถามกับการกระจายอำนาจในระบบอยู่
ที่มา: Coindesk