<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มีรายงานว่าผู้อยู่เบื้องหลังการแฮ็ก FTX มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ อาจอยู่ในรัสเซีย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ได้มีรายงานจากบริษัทวิเคราะห์ บล็อกเชน Elliptic ว่าค้นพบความเชื่อมต่อเกี่ยวกับคดีการขโมยคริปโตมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลลาร์จากกระดานเทรด FTX เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ในรัสเซีย

หลัง Ethereum (ETH) ที่ถูกขโมยไปกว่า 65,000 ETH (100 ล้านดอลลาร์) ถูกโอนไปยัง Bitcoin blockchain ผ่านบริการ RenBridge และผู้โจมตียังได้ใช้ mixers ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปกปิดที่อยู่บนบล็อกเชน

“นอกจาก 4,536 BTC ที่แปลงจาก ETH ที่ RenBridge ยังมี 2,849 BTC ที่ถูกส่งผ่าน mixers ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริการที่เรียกว่า ChipMixer”

“การติดตามสินทรัพย์เหล่านี้กลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีเงินอย่างน้อย 4 ล้านดอลลาร์ถูกโอนไปยังการแลกเปลี่ยน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะถูกถอนออก”

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ยังไม่สามารถทราบผู้โจมตี แต่ข้อมูลจาก Wallet และการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของเงินที่ขโมยมาอาจช่วงให้ค้นหาผู้อยู่เบื้องหลังได้เร็วยิ่งขึ้น

Elliptic กล่าวเพิ่มเติมว่า ในตอนนี้ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้โจมตี มีตั้งแต่พนักงานของ FTX ไปจนถึงกลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ อย่าง Lazarus อย่างไรก็ตามข้อมูลได้ชี้ไปถึงกลุ่มในประเทศรัสเซีย

“ทรัพย์สินที่ถูกขโมยจำนวนมากที่ติดตามได้จาก ChipMixer มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย รวมถึงแก๊งแรนซัมแวร์และตลาด Darknet ก่อนที่จะถูกส่งไปยังกระดานเทรด”

“สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือกันกับนายหน้าหรือคนกลางอื่นๆ กับ Nexus ในรัสเซีย”

โดย Wallet ของ FTX และ FTX US ได้ถูกขโมยคริปโตไปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่บริษัทถูกฟ้องล้มละลาย และผู้ก่อตั้ง Sam Bankman-Fried ประกาศลาออก

และในไม่กี่วันก่อนที่จะเริ่มการพิจารณาคดีของ SBF ก็ได้มีการเคลื่อนไหวของเงินดังกล่าวขึ้น

ก็ต้องมาติดตามกันว่า เงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะไปที่ไหนต่อ และใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

ที่มา: CoinDesk