ประเทศอินเดียเป็นผู้นำโลกด้านการยอมรับคริปโต ตามมาด้วยไนจีเรียและเวียดนาม แต่ทว่าอเมริกาเหนือมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของมูลค่าทั้งหมดที่ได้รับมาจากกระดานเทรดคริปโต ซึ่งเป็นมูลค่าที่มากที่สุดในโลก
ในการคำนวณ Chainalysis ใช้ข้อมูลข้อมูลการเข้าชมเว็บ จากการเข้าชมเว็บ 1.3 หมื่นล้านครั้งเพื่อติดตามกิจกรรม 5 หมวดหมู่ โดยถ่วงน้ำหนักจากความเท่าเทียมของกำลังซื้อต่อหัว นั่นคือ “หากทั้งสองประเทศได้รับคริปโตในจำนวนที่เท่ากันจากกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ ประเทศที่มี PPP ต่อหัวต่ำกว่าจะมีอันดับนำหน้า” ซึ่งจะช่วยพิจารณาได้ว่า “ผู้คนทั่วโลกที่ยอมรับ crypto มากที่สุดอยู่ที่ใด”
กรณีการใช้งานคริปโตทั่วโลกกำลังลดน้อยลง ยกเว้นในประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-ต่ำ (LMI) เช่น อินเดีย ไนจีเรีย และยูเครน ซึ่งอยู่ในอันดับที่ห้า ตามรายงานระบุว่า ประเทศเหล่านี้มีประชากรอาศัยอยู่ 40% ของโลก แต่เป็นผู้ที่นำคริปโตมาใช้มากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2022 เมื่อการใช้งานทั่วโลกเริ่มลดลง:
“นี่อาจเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับอนาคตของคริปโต ประเทศ LMI ส่วนใหญ่มักเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีอุตสาหกรรมและประชากรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว […] หากประเทศ LMI เป็นอนาคต ข้อมูลก็บ่งชี้ว่า คริปโตจะเป็นส่วนสำคัญของอนาคตนั้น” เอเชียกลางและใต้และโอเชียเนีย; ยุโรปกลาง ยุโรปเหนือ และยุโรปตะวันตก; และอเมริกาเหนือ จัดกลุ่มกันเป็นผู้ริเริ่มของมูลค่าธุรกรรมที่ได้รับสูงสุด
แม้ว่าอเมริกาเหนือจะมีความโดดเด่นในตลาด crypto ในแง่ของปริมาณ แต่ปริมาณธุรกรรมของสถาบันลดลงอย่างชัดเจนนับตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนแบ่งของ stablecoin ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยลดจาก 70.3% ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น 48.8% ภายในเดือนมิถุนายน ปริมาณธุรกรรมแบบแบบกระจายอำนาจ ( DeFi) ลดลงมากกว่า 75% ในเดือนสิงหาคม 2022 และเหลือน้อยกว่า 50% ในเดือนกรกฎาคม 2023
ทางฝั่งยุโรปกลาง เหนือ และตะวันตกสร้างมูลค่า crypto ได้ถึง 17.6% จากมูลค่าที่ได้รับ โดยสหราชอาณาจักรคิดเป็นปริมาณมากกว่าสองเท่าของปริมาณอันดับสองของเยอรมนี โดยสหราชอาณาจักรจัดอยู่ในอันดับที่ 14 ในแง่ของการยอมรับคริปโตทั่วโลก
ฝรั่งเศสเป็นผู้นำในการเติบโตของอุตสาหกรรม DeFi แต่ DeFi กลับเติบโตขึ้นในเอเชียกลางและใต้และโอเชียเนีย ยุโรปตะวันออก และยุโรปกลาง ยุโรปเหนือ และยุโรปตะวันตก
ทางฝั่งเอเชียกลางและใต้และโอเชียเนียมีสัดส่วน 19.3% ของมูลค่าคริปโตที่ได้รับกระดานเทรด โดยอินเดียอยู่อันดับหนึ่งนำหน้าเวียดนามซึ่งอยู่อันดับสองประมาณ 100%
ที่มา: cointelegraph