<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สหภาพยุโรปเสนอร่างกฎหมายใหม่ ให้รัฐบาลสามารถอายัดและยึด ‘คริปโตที่ไม่รู้ที่มาได้”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงกฎระเบียบใหม่ที่จะอนุญาตให้รัฐบาลอายัดและยึดทรัพย์สิน “ที่มีที่มาไม่โปร่งใส” ซึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางอาชญากรรม

สมาชิกสภายุโรปได้เห็นชอบกับกฎระเบียบการติดตาม ตรวจสอบ การอายัด การยึด และจัดการทรัพย์สินที่ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่เกิดจากอาชญากรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมที่ร้ายแรง โดยสหภาพยุโรปได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์เรื่องนี้อย่างเป็นทางการ

สมาชิกสภายุโรประบุในข้อตกลงกฎหมายใหม่ ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จะต้องดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่ครอบคลุม เพื่อให้สามารถอายัดทรัพย์สิน รวมถึงจะสามารถริบทรัพย์สินได้ในที่สุด และยังต้องอนุญาตให้มีการตัดสินความผิดขั้นสุดท้าย ในกรณีที่เป็นความผิดทางอาญา

ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จะไม่เพียงแค่ยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด (“เงินจากอาชญากรรม”) เท่านั้น แต่ยังจะต้องมีกฎหมายรองรับการจัดการทรัพย์สินที่ยึดมาเหล่านั้นด้วย เพื่อให้แน่ใจว่ารัฐบาลยึดทรัพย์สินมูลค่าเท่ากับ “ผลตอบแทน” ที่ได้จากการกระทำผิด

แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า

“เป็นครั้งแรกสำหรับรัฐสมาชิกในหลายประเทศ กฎใหม่เกี่ยวกับการริบทรัพย์สมบัติที่ไม่สามารถอธิบายได้ จะอนุญาตให้มีการริบทรัพย์สินที่ระบุในบริบทของการสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางอาญาได้ ภายใต้เงื่อนไขบางประการว่า ทรัพย์สินที่ระบุได้มาจากกิจกรรมทางอาญาที่กระทำภายในกรอบขององค์กรอาชญากรรม และกิจกรรมเหล่านั้นก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมาก

ข้อตกลงนี้เน้นย้ำถึงมาตรการคุ้มครองสิทธิในกระบวนการยึดทรัพย์สินตามขั้นตอน”

หากทรัพย์สมบัติหรือทรัพย์สินถูกโอนไปยังบุคคลที่สาม มาตรการใหม่จะอนุญาตให้รัฐบาลยึดทรัพย์นั้นได้ หากพิจารณาว่า ในการโอนสินทรัพย์นั้นมีเจตนาในการกระทำความผิด 

Félix Bolaños รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสเปน กล่าวว่า

“กำไรที่ได้จากอาชญากรรมมีจำนวนมหาศาล รัฐบาลจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการยึดเงินกำไรเหล่านี้คืนกลับมา จึงจะสามารถต่อสู้กับอาชญากรรมร้ายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

กรอบพื้นฐานของมาตรการใหม่นี้ได้รับการตกลงกันในช่วงกลางปี ​​2023 และระบุถึงคริปโตโดยเฉพาะ

ข้อตกลงใหม่นี้จะต้องได้รับการลงมติเห็นชอบจากตัวแทนของประเทศสมาชิกภายในสภา

หากได้รับอนุมัติ บทความตรานี้จะเข้าสู่กระบวนการประกาศใช้ที่เป็นทางการ ทั้งในคณะมนตรียุโรปและรัฐสภาสหภาพยุโรป”

ที่มา : The Daily Hodl