ข้อมูลล่าสุดเปิดเผยว่า การ Stake เหรียญคริปโตในปัจจุบันให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินปันผลของหุ้นบางตัว โดยพบว่าเงินปันผลของหุ้น S&P ซึ่งเป็นหุ้นชั้นนำมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่รางวัลจากการ Stake คริปโตกลับมีอัตราตอบแทนสูงถึง 84.19% ต่อปี ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงมาก
โดยขณะนี้ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนจากการ stake เหรียญนั้นสูงกว่าเงินปันผลจาก S&P 500 เป็นสัดส่วนกว่า 450% แม้ว่าตลาดทั้งสองจะโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีที่มาจากทาง Google Finance
เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ซึ่งติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ 500 แห่งของสหรัฐฯ เพิ่งทำสถิติการเติบโตในไตรมาสแรกของปีได้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี โดยเพิ่มขึ้นที่ 10.16% ทว่า อัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย (dividend yield) กลับอยู่ที่ 1.35% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2021 หรือราวๆ สองปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับสถิติต่ำสุดเมื่อ 24 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก ที่ในขณะนั้นมีอัตราผลตอบแทนเพียง 1.12 %
ขณะเดียวกันทางฝั่งของการ stake crypto ที่เป็นการฝากเหรียญเพื่อรับผลตอบแทนนั้น ปัจจุบันจ่ายผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 6.08% ตามอัตรา ผลตอบแทนมาตรฐาน ของ Stake Rewards
เมื่อเทียบกันจะพบว่า ตัวของเงินปันผล S&P 500 นั้นจะมาจากค่าเฉลี่ยของเงินปันผลที่จ่ายออกมาจากบริษัททั้งหมด 500 แห่ง ที่อยู่ในดัชนีหุ้น S&P 500 โดย Microsoft เป็นบริษัทที่มีผลตอบแทนมากที่สุดที่ 0.71% ตามด้วย Apple 0.56% และ Nvidia Corp ที่ 0.02 % ขณะที่ในบรรดาเหรียญคริปโต 100 อันดับแรก Algorand มีผลตอบแทนจากการ stake ที่สูงถึง 84.19% ตามด้วย Cosmos ที่ 17.17% และ Filecoin ที่ 16.34%
อย่างไรก็ตามการ staking ด้วยเงินมูลค่ามหาศาลนั้นมีความเสี่ยงที่สูง เนื่องจากสินทรัพย์ดังกล่าวจะถูกล็อกหมายความว่านักลงทุนไม่สามารถขายสินทรัพย์ได้แม้มูลค่าของมันจะลดลงก็ตาม
ปัจจุบันเหล่าสถาบันเริ่มให้ความสนใจการ staking บ้างแล้วยกตัวอย่าง Grayscale ที่ได้เปิดตัวกองทุนการลงทุนรูปแบบใหม่ ที่ออกแบบมาสำหรับลูกค้ากระเป๋าหนัก โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มช่องทางให้พวกเขาได้รับผลตอบแทนจากการ staking เหรียญคริปโตเคอเรนซี ซึ่งเหรียญในกองทุนดังกล่าวจะประกอบไปด้วย Osmosis ในสัดส่วน 24% , Solana 20% , Polkadot 14% และอีก 43% เป็นเหรียญตัวอื่น ๆ
ที่มา : Cointelegraph