ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญเหตุการณ์เลวร้าย เมื่อนักเทรดจำนวนมหาศาลถูกล้างพอร์ตสูญเงินรวมกันมูลค่ากว่า 479 ล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกและความโกรธแค้นให้กับนักลงทุนทั่วโลก
ตามข้อมูลจาก Coinglass เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลคริปโตเผยว่า มีนักเทรดกว่า 141,808 ราย ถูกบังคับขายสินทรัพย์ เป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 479 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังราคา Bitcoin ร่วงดิ่งทะลุ $57,000 เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
Coinglass รายงานว่า การล้างพอร์ตครั้งเดียวที่มีมูลค่ามากที่สุดเกิดขึ้นบน OKX ในคู่ ETH/ USDT คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.07 ล้านดอลลาร์ เงินทุนมูลค่าจำนวนมหาศาลนี้ ถูกล้างพอร์ตท่ามกลางความผันผวนของราคา Bitcoin ที่เกิดขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ราคา Bitcoin ที่ร่วงลงถึง 9% แตะระดับราคา $56,555 ส่งผลให้ บรรดานักเทรดที่เปิด Long Position (เดิมพันว่าราคาจะขึ้น) ในตลาดคริปโตต้องเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนัก
นักเทรดคริปโตสาย Long ต้องสูญเงินกว่า 401,000 ล้านดอลลาร์ ภายในวันเดียว ขณะที่ฝ่าย Short สูญเงินเพียง 63 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นนักเทรดที่มองว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นนั้นขาดทุนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ ในคู่เทรดของ Bitcoin ที่มีการล้างพอร์ตมากกว่า 150 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลล่าสุด
ในขณะที่นักลงทุน Ethereum ที่เปิด Long Position ต้องถูกล้างพอร์ตมูลค่า 107 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นยังมีการถูกล้างพอร์ตจำนวนมากในคู่เหรียญอื่น ๆ อย่างเช่น Solana (SOL) และ Dogecoin (DOGE)
ปัจจุบันราคาของ Bitcoin กลับมาทดสอบแนวรับที่ $56,000 อีกครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving ประมาณสองสัปดาห์ หากมองย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้านี้ บรรยากาศการเทขายอย่างหนักก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยราคา Bitcoin ได้ร่วงลงมาอยู่ที่ $60,000 จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้ที่ $73,850 ดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่บทวิเคราะห์ล่าสุดของนักวิเคราะห์ตลาดชื่อดัง Rekt Capital ชี้ให้เห็นว่าการที่ Bitcoin ร่วงกลับไปแตะระดับราคา $56,000 อีกครั้ง ถือเป็นการย่อตัวที่รุนแรงที่สุดในรอบขาขึ้นของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีรอบนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมั่นใจว่า ตลาดจะกลับเข้าสู่สภาวะขาขึ้นอีกครั้งในระยะยาว
ที่มา:coinedition