World Economic Forum (WEF) เชื่อว่าเทคโนโลยีที่สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจสมัยใหม่
ในบล็อกโพสต์เมื่อวันจันทร์ องค์กรระหว่างประเทศอย่าง World Economic Forum (WEF) ได้พูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรม Crypto โดย WEF ได้เน้นย้ำถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและ Crypto อย่างแพร่หลาย ทั้งยังเสริมว่าการใช้งานในภาคบริการทางการเงินนั้นมีความโดดเด่นอยู่แล้ว
“อันที่จริง สำหรับการทดสอบความแข็งแกร่งของสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนที่เป็นแกนหลักของบริการทางการเงิน และพื้นที่อื่น ๆ ของเศรษฐกิจโลกนั้น ให้ดูว่าธนาคารขนาดใหญ่และบริษัทที่ให้บริการทางการเงินที่เติบโตเต็มที่ทำอะไร ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาพูด” WEF กล่าว
ในทางเดียวกัน ยังมีรายงานด้วยว่า JPMorgan ได้รับชื่อเสียงจากท่าทีที่เป็นมิตรกับภาคอุตสาหกรรม Crypto ดังนั้นธนาคารระดับโลกแห่งนี้อาจไม่ได้เป็นเพียงธนาคารแห่งเดียวที่ยอมรับ Web3 และ Crypto อีกต่อไป
WEF เปรียบเทียบการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Crypto มาใช้กับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการแปลงทางดิจิทัล โดยกล่าวว่า “การโอบกอดของเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Crypto นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าคำนั้นจะดูเหมือนเป็นคำที่ฟังดูไม่ดีก็ตาม”
องค์กรรับรู้ว่าอุตสาหกรรม Crypto ไม่มีความเสี่ยง เช่นเดียวกับภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงิน อย่างไรก็ตาม WEF ก็ตั้งข้อสังเกตว่าคุณลักษณะด้านความโปร่งใสของ Crypto ทำให้ผู้ไม่หวังดีมีช่องทางการก่ออาชญากรรมแค่ไม่กี่ทาง
ตามรายงาน สามีภรรยาคู่หนึ่งถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางในนครนิวยอร์กเมื่อต้นปีนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงไฟล์ภายในบัญชีออนไลน์ที่ควบคุมโดย Lichtenstein ซึ่งมี Private Key ที่ใช้เข้าถึง Bitcoin จำนวน 94,000 BTC (มูลค่าประมาณ 4.1 พันล้านดอลลาร์) ที่ถูกแฮ็กมาจาก Bitfinex ในปี 2016
WEF ยังเรียกปี 2022 ว่า “ปีที่น่ากลัวสำหรับ Crypto” เนื่องจากตลาดสูญเสียมูลค่าไปกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ อีกทั้งองค์กรยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วยว่า การล่มสลายของ FTX กระดานเทรดที่เคยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ได้ทำลายความเชื่อมั่นของนักเทรด และดึงดูดความสนใจจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก
“ผู้กำหนดนโยบายส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่มากเกินไปของ Crypto ในขณะที่ไม่สามารถสร้างกฎระเบียบที่สมเหตุสมผลได้ และสิ่งนี้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วด้วยความล้มเหลวขนาดใหญ่หลายครั้ง”
ที่น่าสนใจคือ WEF เปรียบเทียบความผิดพลาดของตลาด Crypto ในปี 2022 กับเหตุการณ์ฟองสบู่ dot-com ในช่วงต้นปี 2000 โดยกล่าวว่า วิกฤตในปีที่ผ่านมา จะทำให้บริษัทและโมเดลธุรกิจมีกรณีการใช้งาน Crypto และโครงสร้างพื้นฐานอย่างเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น
ที่มา: cryptonews