เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน Binance เว็บเทรด Crypto ชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัวเครือข่าย “opBNB” เป็นครั้งแรกบนเครือข่าย Testnet โดย opBNB เป็นโซลูชันปรับขนาด Layer 2 ที่ออกแบบมาเพื่อลดปริมาณงานบางส่วนที่ต้องประมวลผลบน BNB Chain บล็อกเชน Layer 1 ของ Binance
หลังจากผ่านมาเกือบสองเดือน ในที่สุดโซลูชัน opBNB ก็พร้อมจะเริ่มเปิดใช้งานจริงบน mainnet โดยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา Binance ประกาศว่าจะเริ่มใช้งาน opBNB บน mainnet ในเดือนนี้ ซึ่งหมายความว่าการปรับใช้น่าจะเกิดขึ้นภายในอีกประมาณสองสัปดาห์ข้างหน้า
ก่อนหน้านี้ Binance ได้เริ่มแคมเปญการตลาดที่มีชื่อว่า “Odyssey” เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม โดยระบุว่าผู้ใช้รายแรก ๆ จะได้รับ opBNB Genesis NFTs และมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมูลค่า 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,765,000 บาท) นอกจากนี้ทาง Binance ยังอธิบายไว้ด้วยว่า “opBNB Genesis NFTs จะมอบสิทธิพิเศษประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ผู้ถือ”
อันดับแกผู้ใช้ต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้น เพื่อที่จะมีคุณสมบัติในการเป็นผู้รับ NFT ดังกล่าว รวมไปถึงการ bridge สินทรัพย์ระหว่างเครือข่ายทดสอบ opBNB และ BNB Chain และสร้าง NFT ของตนเองโดยใช้ opBNBScan ทั้งนี้ opBNB ถูกสร้างขึ้นจาก OP Stack ของ Optimism ซึ่งเป็น tech stack สำหรับการเปิดตัวเครือข่าย Layer 2 แบบกำหนดเอง
TVL บน BNB Chain กำลังลดลง
อย่างไรก็ตามการเปิดตัว opBNB ดูเหมือนว่ามาพร้อมกับ มูลค่าสินทรัพย์โดยรวมที่ถูกล็อก (TVL) และส่วนแบ่งตลาดของ BNB Chain ที่ลดต่ำลง
BNB Chain TVL
ก่อนหน้านี้ BNB Chain เริ่มต้นปี 2021 มาด้วย TVL อยู่ที่ 152 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2021 แต่หลังจากนั้นตัวเลขกลับแกว่งไปมาระหว่าง 9 พันล้านดอลลาร์ถึง 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงที่เหลือของปี
ตามรายงานของ DeFi Llama – BNB Chain ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเครือข่าย smart contract ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของตลาด จนกระทั่งถูก Terra แซงหน้าในเดือนธันวาคม 2021 แต่ในขณะที่ Terra เกิดการล่มสลายอย่างกะทันหันในเดือนพฤษภาคม 2022 BNB Chain ก็ได้สูญเสีย TVL ไปถึงสองในสามแล้ว และดูเหมือนการสูญเสียจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2023
ที่มา: thedefiant