นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 พ.ย. เป็นต้นไป เกาหลีใต้จะบังคับใช้คำสั่งห้าม Short Sell หุ้นอีกครั้ง อย่างน้อยก็จนถึงเดือนมิถุนายน เพื่อส่งเสริม “สนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน” สำหรับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน
คำสั่งห้ามดังกล่าวเคยถูกยกเลิกไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 สำหรับการซื้อขายหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ที่รวมอยู่ในดัชนีราคาหุ้น KOSPI200 และ KOSDAQ150 แต่ข้อจำกัดนั้นยังคงอยู่สำหรับหุ้นส่วนใหญ่
“มาตรการนี้มีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลาย ‘สนามแข่งที่ไม่เท่าเทียมกัน’ ระหว่างนักลงทุนสถาบันและรายย่อยอย่างแท้จริง” Kim Joo-hyun ประธานคณะกรรมการการบริการด้านการเงิน (FSC) กล่าวในการแถลงข่าว
ทั้งนี้ทาง FSC จะทบทวนกิจกรรมของตลาดในเดือนมิถุนายน 2024 อีกครั้ง เพื่อตัดสินใจว่ามีการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้ยกเลิกข้อห้ามได้หรือไม่ นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหน่วยงานกำกับดูแลยังกล่าวไว้ด้วยว่า จะจัดตั้งทีมผู้สืบสวนสอบสวนการ Short Sell หุ้นโดยธนาคารเพื่อการลงทุนต่างประเทศ เพื่อหาพฤติกรรมผิดกฎหมายรวมถึงการขายหุ้นแบบ Naked short-selling
ตลาดคริปโตมีข้อได้เปรียบมากกว่าหรือไม่?
ตลาดหุ้นนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพและความยุติธรรมของตลาด อย่างไรก็ตาม บางครั้งรัฐบาลอาจเข้ามาแทรกแซงตลาดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองบางประการ ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการลงทุนของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย
ในกรณีของเกาหลีใต้ รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงตลาดหุ้นเพื่อลดผลกระทบของการขายหุ้นแบบ Short Sell และ Naked short-selling ที่อาจส่งผลต่อนักลงทุนรายย่อย ซึ่งก็ถือเป็นการดำเนินงานที่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม โดยสรุปแล้วตลาดหุ้นยังคงมีข้อจำกัดหลายประการที่อาจกระทบนักลงทุนและผู้เข้าร่วมตลาด เช่น
- ตลาดหุ้นมีศูนย์กลางอำนาจ อำนาจในการซื้อขายหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งอาจใช้อำนาจของตนในการบิดเบือนราคาหุ้นหรือสร้างความเสียหายแก่นักลงทุนรายย่อย
- ตลาดหุ้นมีกฎระเบียบที่เข้มงวด กฎระเบียบเหล่านี้อาจทำให้นักลงทุนรายย่อยเสียเปรียบ เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยอาจไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้
ในอีกด้านหนึ่ง ตลาดคริปโตนั้นไม่สามารถถูกแทรกแซงจากรัฐบาลได้เหมือนกับตลาดหุ้นที่เป็นตลาดแบบรวมศูนย์ (Centralized) โดยในระบบตลาดคริปโต นักลงทุนทุกคนสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีนักลงทุนรายใดมีอำนาจเหนือกว่านักลงทุนรายอื่น
ที่มา: reuters