ราคา Bitcoin ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจช่วยกระตุ้นให้ตลาดคริปโตโดยรวมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้ว่าจะมี Altcoin จำนวนมากที่ล้มเหลวไปตั้งแต่ปี 2020 ก็ตาม
รายงานจาก Alphaquest และ Storible เปิดเผยว่า โปรเจกต์คริปโตกว่า 72% ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 นั้นล้มเหลว ตามที่รายงานโดย Business Insider มีโปรเจกต์ที่ได้รับการตรวจสอบ จากโปรเจกต์ทั้งหมด 12,000 โปรเจกต์ พบว่ามี 8,854 โปรเจกต์ที่ล้มเหลว
Alexander Kuptsikevich นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ FxPro กล่าวว่า “ความสนใจใน Altcoin กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจาก Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่หลายสกุล กำลังพุ่งทะยานแตะจุดสูงสุดตลอดกาลมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจัยทางจิตวิทยามีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ เพราะเมื่ออยู่ในช่วงที่ราคาพุ่งทำลายสถิติ All-Time High ติดต่อกันเป็นเวลานาน บวกกับสกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง Bitcoin มีมูลค่าสูง ทำให้นักลงทุนจึงหันไปมองหาโอกาสใหม่ ๆ และยอมรับความเสี่ยงมากขึ้น
ปี 2023 เป็นปีที่ท้าทายที่สุด โดยสัดส่วนของโปรเจกต์ที่ล้มเหลวคิดเป็น 59.35% เหตุการณ์สำคัญของปีนี้คือ การล่มสลายของ FTX ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโต ส่งผลให้เกิดการตรวจสอบที่เข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแล สิ่งที่น่าสนใจคือ 32% ของโปรเจกต์ที่ล้มเหลวเกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของ FTX
อย่างไรก็ตาม ปี 2024 อาจเป็นปีที่สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลง การเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETFs ในสหรัฐฯ ได้จุดประกายความสนใจในตลาดคริปโตเคอเรนซีขึ้นอีกครั้ง นับตั้งแต่กองทุน Spot Bitcoin ETF เปิดตัวในเดือนมกราคม ราคา Bitcoin ก็พุ่งสูงขึ้นกว่า 47% และทำสถิติราคาแตะจุดสูงสุดตลอดกาลในวันพุธที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์มอง Bitcoin ในแง่ดี โดยบางคนคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin อาจจะไปถึง 100,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้ สิ่งเหล่านี้ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการ เช่น เงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF มากขึ้น, การ halving ของ Bitcoin ที่กำลังจะมาถึง และอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายลง อาจทำให้อุตสาหกรรมคริปโตโดยรวมได้รับความสนใจมากขึ้น
Geoff Kendrick นักวิเคราะห์ของ Standard Chartered กล่าวว่า “ราคา BTC ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปด้วย”
“พูดอีกอย่างก็คือ มันดึงดูดเงินลงทุนใหม่และความสนใจใหม่ ๆ เข้าสู่วงการ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคริปโต”
ที่มา : benzinga Crypto