ตามแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (วันที่ 26 มีนาคม) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DoJ) ได้ตั้งข้อหาผู้ร่วมก่อตั้ง KuCoin สองคน คือ นาย Chun Gan และนาย Ke Tang ฐานสมรู้ร่วมคิดละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร (Bank Secrecy Act) โดย “เพิกเฉยต่อการรักษาระบบต่อต้านการฟอกเงิน (AML)” ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้เว็บเทรดถูกนำไปใช้ในการฟอกเงินและสนับสนุนการก่อการร้าย
หลังจากแถลงการณ์ดังกล่าว KuCoin ได้พบเห็นปริมาณเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ไหลออกจากแพลตฟอร์มอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักมาจากการตรวจสอบเข้มงวดของหน่วยงานทางกฎหมาย ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความตื่นตระหนกและรีบโอนสินทรัพย์ดิจิทัลของตนออกแพลตฟอร์ม
ไม่เพียงแต่ผู้ใช้งานทั่วไปเท่านั้น เหล่า “เจ้ามือ” หรือผู้ที่ถือครองโทเค็นดิจิทัลจำนวนมหาศาล ก็ถูกพบว่ามีการโยกย้ายเหรียญ stablecoin ยอดนิยมอย่าง Tether USD ( USDT) และ USD Coin (USDC) เป็นมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ ไปยังเว็บเทรดคริปโตคู่แข่งอย่าง Bybit และ OKX ด้วยเช่นกัน
บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชน LookOnChain ได้ตรวจพบการโอนเงิน Tether USD (USDT) มูลค่า 32 ล้านเหรียญไปยังเว็บเทรด Bybit เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา
ในขณะที่ข้อมูลเงินทุนสำรองของ KuCoin ระบุว่า ปัจจุบันเว็บเทรดยังคงมีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าประมาณ 6.137 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมไปถึง Bitcoin (BTC) มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และ Shiba Inu (SHIB) ที่มีมูลค่ารวม 3.37 ล้านล้าน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 104.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ท่ามกลางมรสุมการพิจารณาคดี Whale Alert บอทติดตามการทำธุรกรรมของเจ้ามือได้พบเห็นการโอน Shiba Inu จำนวน 2 ล้านล้าน SHIB เกิดขึ้น สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามชวนสงสัยขึ้นบนแพลตฟอร์ม X ทันทีว่านี่อาจมีความเกี่ยวข้องกับเว็บเทรด Kucoin เจ้าปัญหา
น่าประหลาดใจที่ธุรกรรมนี้ไม่ได้เกิดจากการที่ “เจ้ามือ” โอนเหรียญคริปโตของตนเองออกไปเพราะความกังวล แต่ในทางตรงกันข้าม กระเป๋าเงินคริปโตปลายทางที่ถูกโอนไปนั้นกลับมีความเชื่อมโยงกับเว็บเทรด KuCoin เนื่องจากมีป้ายกำกับว่า ‘KuCoin 20 ‘ บน EtherScan
ผลการสืบสวนเพิ่มเติมโดย DailyCoin แสดงให้เห็นว่า Shiba Inu คือสินทรัพย์ลำดับที่สองที่มีมูลค่ามากที่สุดในกระเป๋าเงิน ‘KuCoin 20’ ซึ่งมีมูลค่าราว 63,109,626 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่สินทรัพย์ดิจิทัลเดียวที่มีมูลค่ามากกว่าภายในกระเป๋า hot wallet ใบนี้ก็คือ KCS เหรียญคริปโตประจำเว็บเทรด KuCoin ที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา: dailycoin